สถานีโทรทัศน์ออสเตรเลียน บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (ABC) รายงานว่า กองทัพรัสเซียเคลื่อนพลเข้าใกล้กรุงเคียฟ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของยูเครนระบุว่า รัสเซียได้ระดมยิงอย่างหนักและโจมตีจากทางอากาศ ซึ่งขัดขวางการอพยพประชาชนออกจากเมืองต่าง ๆ ที่กองทัพรัสเซียปิดล้อม
ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวว่า รัสเซียกำลังส่งกองกำลังชุดใหม่เข้ามา ภายหลังจากกองทัพยูเครนได้ถอนชุดปฏิบัติการยุทธวิธี 31 ชุดออกจากปฎิบัติการโจมตี ซึ่งปธน.เซเลนสกีกล่าวว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซียในรอบหลายสิบปี แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดและยังไม่สามารถยืนยันได้
ปธน.เซเลนสกียังระบุว่า ตนเองได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี และประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เพื่อกดดันให้รัสเซียปล่อยตัวนายอีวาน เฟโดรอฟ นายกเทศมนตรีเมืองเมลิโตปอล ซึ่งยูเครนระบุว่าถูกทหารรัสเซียลักพาตัวไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ด้านรัสเซียไม่ได้ออกมาพูดถึงชะตากรรมของนายเฟโดรอฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่าถูกรัสเซียลักพาตัวไปด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายโดยไม่มีมูลความจริง ขณะที่ประชาชนในเมืองกว่า 2,000 คนได้ออกมาประท้วงรอบบริเวณอาคารที่ว่าการเพื่อให้ปล่อยตัวนายเฟโดรอฟ ปัจจุบันเมืองเมลิโตปอลได้ถูกรัสเซียยึดไว้แล้ว
ทางด้านโฆษกรัฐบาลเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (12 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า นายกฯ โชลซ์และปธน.มาครงได้ต่อสายถึงปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน เป็นเวลา 75 นาที และขอให้หยุดยิงในยูเครนโดยทันที โฆษกฯ ยังระบุว่า ผู้เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ตกลงกันว่าจะไม่เปิดเผยสาระสำคัญของการพูดคุย
ขณะที่ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า ยูเครนยังถอยไม่ได้ แต่จะยึดมั่นในการหยุดยิงบริเวณระเบียงมนุษยธรรม (Humanitarian Corridors) ซึ่งเป็นเส้นทางอพยพตามที่ตกลงกันนอกเมืองมาริอูโพล ซึ่งถูกรัสเซียปิดล้อมมาเกือบ 2 สัปดาห์ และขอให้รัสเซียหยุดยิงเช่นกัน