รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศคำตัดสินอย่างเป็นทางการในประเด็นการใช้ความรุนแรงกับชาวโรฮิงญาของกองทัพเมียนมา โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เตรียมแถลงคำตัดสินดังกล่าวในวันนี้ ณ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งขณะนี้กำลังจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความโหดร้ายที่ชาวโรฮิงญาต้องพบเจอ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ ระบุว่า นายบลิงเกนได้มีคำสั่งให้มีการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามหลักกฎหมายและข้อเท็จจริง ซึ่งได้ผลสรุปว่า กองทัพเมียนมากระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาจริง โดยรัฐบาลสหรัฐและกลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆ เชื่อว่าคำตัดสินอย่างเป็นทางการนี้จะเพิ่มแรงกดดันจากนานาชาติต่อคณะรัฐประหารเมียนมา
รายงานข่าวระบุว่า คำตัดสินครั้งนี้ประกาศออกมาหลังจากนายบลิงเกนเข้ารับตำแหน่งไปแล้ว 14 เดือน โดยเขาเคยให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น
อนึ่ง เมื่อปี 2560 กองทัพเมียนมาได้เปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ที่ชาวโรฮิงญาอยู่อาศัย ส่งผลให้ชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 730,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ต้องอพยพหนีตายเข้าสู่บังคลาเทศ โดยผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาได้เปิดเผยถึงการสังหาร การกระทำชำเรา และการวางเพลิงโดยเจ้าหน้าที่ทหารเมียนมา
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐและสำนักกฎหมายเอกชนได้รวบรวมหลักฐานของถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในขณะนั้น ปฏิเสธที่จะประกาศคำตัดสินออกมาอย่างเป็นทางการ