เจ้าหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนเผยรายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมามีการออกคำสั่งพิเศษหลังเหตุรัฐประหารเมื่อเดือนก.พ.ปีที่แล้ว โดยระบุขอบเขตความรับผิดชอบเฉพาะการส่งกองกำลังไปประจำการและปฏิบัติการในเขตเมืองเท่านั้น พร้อมทั้งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธร้ายแรงกับพลเรือนที่ไม่มีอาวุธได้
องค์การ Fortify Rights และศูนย์ศึกษาด้านสิทธิมนุษยชน Schell Center แห่งคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล เผยรายงานหลังตรวจสอบร่วมกัน ระบุว่า กลุ่มผู้นำกองทัพใช้พลซุ่มยิงสังหารกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อสร้างความหวาดกล้ว นอกจากนี้ ยังสั่งให้ทหารกระทำสิ่งที่ขัดต่อกฎหมาย และมอบคู่มือภาคสนามโดยไม่มีการระบุแนวทางเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ในสงครามแต่อย่างใด
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ตรวจสอบยังได้วิเคราะห์เอกสารที่รั่วไหลและรวบรวมข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์อีก 128 คน ซึ่งมีทั้งผู้รอดชีวิต, เจ้าหน้าที่แพทย์, พยาน รวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เกี่ยวกับเหตุความวุ่นวายในเมียนมาหลังผ่านการรัฐประหารไปแล้วหกเดือน
ทางกลุ่มระบุว่า ได้รับและตรวจสอบเอกสารภายในซึ่งระบุคำสั่งให้ตำรวจจับกุมผู้ประท้วง, นักเคลื่อนไหว และสมาชิกพรรครัฐบาลของเมียนมาที่ถูกโค่นอำนาจได้ พร้อมอ้างคำให้การเหยื่อที่ถูกทรมานและกระทำทารุณ
นายแมทธิว สมิธ หัวหน้าองค์การ Fortify Rights และผู้ร่วมทำรายงานกล่าวว่า "ทุกคนที่มีส่วนรับผิดชอบในอาชญากรรมที่เกิดขึ้นสมควรถูกคว่ำบาตรและดำเนินคดี" นอกจากนี้ นายสมิธยังแนะนำให้สมาชิกองค์การสหประชาชาติ (UN) ร่วมกันผลักดันให้ระงับการส่งอาวุธไปยังเมียนมา และดำเนินการทางกฎหมายต่อนายพลของกองทัพ
อย่างไรก็ดี ขณะนี้กองทัพเมียนมาไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อข้อมูลในรายงานแต่อย่างใด