นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียมีความยินดีที่ยูเครนได้ยื่นข้อเสนอเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อยุติความขัดแย้ง
อย่างไรก็ดี นายเพสคอฟระบุว่า ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ความคืบหน้าครั้งใหญ่ และทั้งสองฝ่ายยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมาก
ทั้งนี้ คณะเจรจาสันติภาพของยูเครนได้ยื่นข้อเสนอการมีสถานะเป็นกลางในการเจรจากับรัสเซียที่กรุงอิสตันบูลเมื่อวานนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับประกันความมั่นคงของยูเครน
ข้อเสนอการมีสถานะเป็นกลางของยูเครนระบุว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับประเทศใด และยูเครนจะไม่ยินยอมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศ
นอกจากนี้ ข้อเสนอดังกล่าวยังรวมถึงกระบวนการหารือเกี่ยวกับสถานะของไครเมียซึ่งจะใช้เวลา 15 ปี
ยูเครนระบุว่าข้อเสนอการมีสถานะเป็นกลางดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ต่อเมื่อมีการหยุดยิงโดยสิ้นเชิง
การเปิดเผยข้อเสนอดังกล่าวถือเป็นการระบุรายละเอียดมากที่สุดของยูเครน ซึ่งรวมถึงข้อตกลงรับประกันความมั่นคงสำหรับยูเครน
นายเดวิด อาราคาเมีย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เจรจาสันติภาพของยูเครน กล่าวว่า ข้อตกลงรับประกันความมั่นคงจะมีเนื้อหาเช่นเดียวกับมาตรา 5 ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งระบุว่า การโจมตีต่อสมาชิกประเทศใดประเทศหนึ่ง จะถือเสมือนการโจมตีต่อสมาชิกทุกประเทศ
นายอาราคาเมียเปิดเผยรายชื่อประเทศที่อาจเข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าว ได้แก่ สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งได้แก่ สหรัฐ รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และจีน รวมทั้ง ตุรกี แคนาดา เยอรมนี อิตาลี โปแลนด์ อิสราเอล และประเทศอื่นๆที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าว
นายอาราคาเมียกล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะต้องผ่านการทำประชามติของชาวยูเครน และการให้สัตยาบันของรัฐสภายูเครน รวมทั้งการรับรองของประเทศที่รับประกันความมั่นคงสำหรับยูเครน
ทางด้านนายโอเลคซานเดอร์ ชาลีย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เจรจาสันติภาพของยูเครน กล่าวว่า "ถ้าเราสามารถบรรลุข้อตกลงเหล่านี้ ซึ่งเราถือว่าเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สุด ยูเครนก็จะสามารถมีสถานะเป็นกลางอย่างถาวร โดยเป็นรัฐที่ปลอดนิวเคลียร์และไม่เป็นพันธมิตรทางทหารกับกลุ่มใด"