สหรัฐ สหภาพยุโรป (EU) และเยอรมนีต่างออกมาประกาศเมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) ว่า จะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียเพิ่มเติม หลังมีรายงานข่าวว่าทหารรัสเซียสังหารหมู่ประชาชนชาวยูเครนในเมืองบูกาใกล้กรุงเคียฟ
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่า ทางการยูเครนพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 410 รายใกล้กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเมื่อวานนี้ หลังจากที่รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว
ปธน.เซเลนสกีเปิดเผยกับสำนักข่าวซีบีเอสของสหรัฐว่า การกระทำดังกล่าวของรัสเซียถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
รายงานครั้งนี้ทำให้ผู้นำประเทศต่าง ๆ ออกมาประณามการกระทำของรัสเซียว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม พร้อมประกาศเตรียมยกระดับมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย
เว็บไซต์มาร์เก็ตวอชรายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การบริหารของปธน.โจ ไบเดน อาจประกาศคว่ำบาตรต่อภาคอุตสาหกรรมของรัสเซียที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ เช่น เหมืองแร่และคมนาคม รวมถึงประกาศคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อภาคธุรกิจการเงินของรัสเซียด้วย
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ลอนดอน ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ยืนยันว่าทาง EU อยู่ในระหว่างการพิจารณาคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน