นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษเปิดเผยว่า "การโจมตีอันโหดเหี้ยมต่อประชาชน" ในเมืองบูกาและอีร์ปิน ใกล้กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนนั้น ถือเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ว่ารัสเซียได้ก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน โดยอังกฤษจะยกระดับการคว่ำบาตรรัสเซียและเพิ่มการสนับสนุนทางทหารในยูเครนเพื่อเป็นการตอบโต้
"ผมจะทำทุกวิถีทางภายใต้ขอบเขตอำนาจเพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงสำหรับการทำสงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย" นายกฯจอห์นสันกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (03 เม.ย.)
"เราจะยกระดับการคว่ำบาตรต่อรัสเซียและเพิ่มการสนับสนุนทางทหารในยูเครน รวมถึงเพิ่มการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมเพื่อช่วยผู้ที่กำลังประสบความยากลำบากในสมรภูมิรบ"
อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า กองกำลังรัสเซียสังหารพลเรือนในเมืองบูกา โดยระบุว่าการปล่อยคลิปวิดีโอและภาพศพประชาชนดังกล่าวถือเป็น "อีกหนึ่งการยั่วยุ" ของรัฐบาลยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่า ทางการยูเครนพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 410 รายใกล้กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) หลังจากที่รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว
ปธน.เซเลนสกีเปิดเผยกับสำนักข่าวซีบีเอสของสหรัฐว่า การกระทำดังกล่าวของรัสเซียถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ข่าวการพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากกว่า 400 รายใกล้กับกรุงเคียฟส่งผลให้นานาประเทศออกมาประณามรัสเซียในทันที โดยนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ภาพและฟุตเทจที่ปรากฏบนสื่อต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่ามีร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากอยู่ตามท้องถนนในเมืองบูกา