ฝรั่งเศสเล็งขยายอายุเกษียณในประเทศหลังประสบความล้มเหลวมาหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากสงครามในยูเครนและนโยบายการทูตเชิงรุกของนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส หนุนนำให้เขามีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับเลือกเป็นผู้นำประเทศต่ออีกสมัย
ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การปฏิรูปนโยบายเกษียณและบำนาญอันซับซ้อนของฝรั่งเศสถือเป็นเรื่องยากลำบากและต้องอาศัยความพยายามสำหรับประธานาธิบดีฝรั่งเศสมาแล้วหลายคน และปธน.มาครงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น โดยเขาต้องระงับแผนปฏิรูประบบบำนาญที่เสนอเมื่อปี 2563 ไว้ชั่วคราว ด้วยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
อย่างไรก็ดี ปธน.มาครงยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ โดยขณะนี้เขาต้องการเดินหน้าผลักดันการขยายอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 65 ปี เหตุเพราะฝรั่งเศสถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเกษียณอายุเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมในปัจจุบัน
ฝรั่งเศสมีกำหนดจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในวันที่ 10 เม.ย. ตามด้วยการเลือกตั้งรอบสุดท้ายในวันที่ 24 เม.ย. โดยผลสำรวจความคิดเห็นระบุว่า ความนิยมในตัวปธน.มาครงเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางการรุกรานยูเครนของรัสเซีย แม้เริ่มชะลอลงบ้างเมื่อไม่นานมานี้