นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเผยว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลที่ระบุว่า รัสเซียใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนในเมืองมาริอูโพลของยูเครน
นางทรัสส์ได้ทวีตข้อความว่า "เรากำลังเร่งประสานงานกับพันธมิตรเพื่อตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับรายงานที่ว่า กองทัพรัสเซียอาจใช้สารเคมีในการโจมตีพลเรือนในเมืองมาริอูโพล" นอกจากนี้ นางทรัสส์ยังเพิ่มเติมว่า "การใช้อาวุธดังกล่าวอาจทำให้ความขัดแย้งครั้งนี้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเลือดเย็น เราจะให้ปูตินและประเทศของเขาต้องรับผิดชอบผลของการกระทำ"
ทั้งนี้ รายงานการใช้อาวุธเคมีเปิดเผยเป็นครั้งแรกโดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษอาซอฟ (Azov Regiment) ของยูเครน ซึ่งระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ใช้สารพิษที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
ขณะที่นายจอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอนเปิดเผยว่า สหรัฐได้รับทราบถึงการโจมตีที่รุนแรงดังกล่าวแล้ว โดยนายเคอร์บีได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "เรายังยืนยันในตอนนี้ไม่ได้ และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด"
นายเคอร์บียังระบุว่า "หากรายงานเหล่านี้เป็นความจริง ก็เป็นเรื่องน่ากังวลมากและตอกย้ำถึงความกังวลที่เรามีว่ารัสเซียอาจใช้สารเคมีในการปราบจลาจลหลายชนิด รวมถึงแก๊สน้ำตาผสมสารเคมีในยูเครน"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐได้เตือนว่า กองทัพรัสเซียจะยังคงปฏิบัติการอันโหดร้ายป่าเถื่อน ในขณะระดมโจมตีภูมิภาคฝั่งตะวันออกของยูเครน