ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอีกเป็นมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มแสนยานุภาพด้านการสู้รบให้กับยูเครน หลังจากรัสเซียประกาศเดินหน้าโจมตียูเครนต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
มาตรการให้ความช่วยเหลือยูเครนครั้งใหม่นี้ ครอบคลุมถึงอาวุธหนัก เช่นปืนใหญ่ รถหุ้มเกราะ และเรือป้องกันชายฝั่ง โดยความช่วยเหลือมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ครั้งล่าสุดนี้ จะส่งผลให้งบประมาณโดยรวมที่สหรัฐให้ความช่วยเหลือยูเครนนับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในเดือนก.พ. พุ่งขึ้นเป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์
ปธน.ไบเดนได้ประกาศความช่วยเหลือทางทหารครั้งล่าสุดหลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเมื่อวานนี้
"การที่รัสเซียประกาศความพร้อมที่จะโจมตีแคว้นดอนบาส ทำให้สหรัฐตัดสินใจเพิ่มความช่วยเหลือแก่ยูเครน เพื่อให้ยูเครนมีขีดความสามารถทางทหารเพิ่มขึ้นในการป้องกันตนเอง มาตรการให้ความช่วยเหลือครั้งใหม่นี้จะประกอบไปด้วยระบบอาวุธที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ยูเครนสามารถต่อกรกับรัสเซีย เพราะเราเชื่อว่ารัสเซียเตรียมเปิดฉากโจมตีภูมิภาคฝั่งตะวันออกของยูเครนอย่างแน่นอน" ปธน.ไบเดนกล่าว
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 เม.ย.) ว่า รัสเซียจะบุกโจมตียูเครนต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย และยืนยันว่าการรบจะดำเนินการไปตามแผน แม้ได้ทำการถอนทหารครั้งใหญ่เมื่อเผชิญกับการต่อต้านอย่างแข็งแกร่งของยูเครน และรัสเซียได้สูญเสียทหารจำนวนหลายพันนายจากการสู้รบในยูเครนที่ดำเนินมาตั้งแต่ปลายเดือนก.พ.ก็ตาม
ปธน.ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การที่รัสเซียรุกรานยูเครนนั้นถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ปธน.ไบเดนพูดอย่างชัดเจนว่ารัสเซียกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครน
"ใช่ ผมเรียกมันว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะมันชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ปูตินกำลังพยายามลบความคิดเกี่ยวกับความสามารถที่จะเป็นคนยูเครน และหลักฐานก็เพิ่มมากขึ้น" ปธน.ไบเดนกล่าว
ตามอนุสัญญาแห่งสหประชาชาตินั้น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวมถึงการฆ่า, การทำร้ายร่างกายหรือจิตใจอย่างร้ายแรง, การก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต และการขัดขวางการให้กำเนิดบุตร รวมถึงวิธีการอื่น ๆ ซึ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ถือเป็นอาชญากรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศในอนุสัญญาของสหประชาชาติ