หนังสือพิมพ์เดอะไทม์สรายงานโดยอ้างคำพูดของนายวาลดิส ดอมบรอฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ว่า สหภาพยุโรป (EU) เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ที่เรียกกว่า "การคว่ำบาตรอันชาญฉลาด (Smart Sanctions)" ต่อรัสเซีย ด้วยการระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
นายดอมบรอฟสกิสให้สัมภาษณ์กับเดอะไทม์สว่า "เรากำลังพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งที่ 6 และหนึ่งในมาตรการที่เรากำลังพิจารณาอยู่คือการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันบางรูปแบบ เมื่อเราทำการคว่ำบาตร เราต้องทำในแบบที่จะเพิ่มแรงกดดันให้กับรัสเซียมากที่สุด ขณะเดียวกันก็ลดความเสียหายที่เราได้รับให้เหลือน้อยที่สุด"
นายดอมบรอฟสกิสระบุว่า ยังไม่มีการตกลงรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับการคว่ำบาตรน้ำมัน แต่อาจรวมไปถึงการค่อย ๆ ลดการนำเข้าน้ำมันรัสเซียหรือเรียกเก็บภาษีนำเข้าสำหรับการส่งออกที่มีมูลค่าเกินที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรป โดยคิดเป็น 26% ของการนำเข้าน้ำมันของ EU ในปี 2563 ซึ่ง 1 ใน 3 ของพลังงานจากผลิตภัณฑ์น้ำมันและปิโตรเลียมของ EU ใช้ไปกับภาคการขนส่งจนถึงการผลิตสารเคมี
ยูเครนและประเทศ EU บางประเทศ รวมถึงโปแลนด์และลิทัวเนียต้องการระงับนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย ขณะที่เยอรมนีและฮังการีไม่เห็นด้วยกับการระงับนำเข้าน้ำมันในทันที
บรูเกล (Bruegel) หน่วยงานมันสมองชั้นนำของยุโรป ระบุว่า น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันคิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของรายได้จากการส่งออกของรัสเซียเมื่อปี 2564 โดยในปัจจุบัน ยุโรปจ่ายเงินค่าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์กลั่นจากรัสเซียเป็นเงินประมาณ 450 ล้านดอลลาร์ต่อวัน, ค่าก๊าซประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ต่อวัน และค่าถ่านหินประมาณ 25 ล้านดอลลาร์