บรรดาเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและนักกลยุทธ์ของพรรคเดโมแครตต่างแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะมีต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567 จากกรณีที่นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลาตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ด้วยข้อตกลงมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะความเป็นไปได้ที่นายมัสก์จะอนุญาตให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐกลับมาเล่นทวิตเตอร์ได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ในคณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนกำลังจับตาการทำข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์อย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่บางส่วนวิตกกังวลมากขึ้นว่า นายมัสก์จะอนุญาตให้นายทรัมป์และสมาชิกของพรรคริพับลิกันที่ถูกปิดกั้นจากทวิตเตอร์ สามารถกลับมาใช้งานทวิตเตอร์ได้อีกครั้ง
ความวิตกกังวลดังกล่าวมีขึ้นหลังบริษัททวิตเตอร์ได้ออกมายืนยันในวันจันทร์ (25 เม.ย.) ว่า คณะกรรมการบริหารของทวิตเตอร์ยอมรับข้อเสนอการซื้อกิจการของนายมัสก์ โดยคาดว่าการทำธุรกรรมจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ หลังได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแล
นอกจากนี้ บรรดาบุคคลใกล้ชิดของปธน.ไบเดนและนักกลยุทธ์ของพรรคเดโมแครตยังวิตกกังวลด้วยว่า ข้อมูลเท็จอาจถูกเผยแพร่บนทวิตเตอร์มากยิ่งขึ้นภายใต้การนำของนายมัสก์และก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2567 ซึ่งอาจฉุดรั้งคะแนนเสียงของปธน.ไบเดนในสนามชิงชัยตำแหน่งผู้นำสหรัฐสมัยที่สองกับนายทรัมป์
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเป็นหนึ่งในพันธมิตรของปธน.ไบเดนที่กังวลว่า การเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ของนายมัสก์อาจเปิดทางให้นายทรัมป์หวนคืนสู่แพลตฟอร์มดังกล่าว
"นายทรัมป์จะใช้ทวิตเตอร์สร้างความเสียหายมากขึ้น เพื่อหวนคืนสู่อำนาจในปี 2565 และ 2567 ในขณะที่นายอีลอน มัสก์ไม่ได้ส่งสัญญาณแม้แต่น้อยว่าจะหยุดยั้งทรัมป์" นางแมรี แอนน์ มาร์ช นักกลยุทธ์ผู้ทรงคุณวุฒิของพรรคเดโมแครตให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี