ทั้งนี้ โปแลนด์และบัลแกเรียนับเป็นสองประเทศแรกที่ถูกตัดการเข้าถึงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์หลักของยุโรป นับตั้งแต่รัสเซียเปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครนในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งได้คร่าชีวิตประชาชนไปหลายพันคน ผู้บริสุทธิ์หลายล้านคนต้องอพยพย้ายถิ่นฐานและสร้างความหวั่นวิตกว่าความขัดแย้งจะลุกลามขยายวงมากยิ่งขึ้น
"ก๊าซพรอมได้ทำการระงับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้บริษัทบัลการ์ก๊าซของบัลแกเรีย และบริษัทพีจีเอ็นไอจี (PGNiG) ของรัฐบาลโปแลนด์โดยสมบูรณ์แล้ว เนื่องจากทั้งสองประเทศไม่ยอมชำระเงินค่าก๊าซธรรมชาติด้วยเงินสกุลรูเบิล" ก๊าซพรอมระบุในแถลงการณ์
ประเด็นการระงับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียนั้นทำให้นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ออกโรงวิจารณ์ว่า รัสเซียพยายามใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเครื่องมือข่มขู่ โดยเธอระบุว่าการกระทำของรัสเซียนั้น "ไร้เหตุผลและไม่อาจยอมรับได้"
นอกจากนี้ นางฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่ารัสเซียเป็นซัพพลายเออร์ก๊าซธรรมชาติที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมเสริมว่า "เราได้เตรียมการรับมือสำหรับกรณีดังกล่าวเอาไว้แล้ว"
ก่อนหน้านี้ โปแลนด์และบัลแกเรียเปิดเผยว่า รัสเซียจะระงับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติไปยังโปแลนด์และบัลแกเรียตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากประเทศเหล่านี้ไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขชำระเงินค่านำเข้าก๊าซธรรมชาติด้วยสกุลเงินรูเบิล ซึ่งทำให้ความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกและรัสเซียจากผลพวงของประเด็นยูเครนรุนแรงยิ่งขึ้น