นายเจมส์ เทเคล็ต ซีอีโอของบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนผลิตขีปนาวุธต่อต้านรถถังแจฟลิน (Javelin) เพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก หลังรัสเซียและจีนเดินหน้าขยายอิทธิพล
ทั้งนี้ นายเทเคล็ตให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอสในวันอาทิตย์ (8 พ.ค.) ว่า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตขีปนาวุธแจฟลินจากปัจจุบัน 2,100 ชุดต่อปี เป็น 4,000 ชุด โดยการเพิ่มกำลังการผลิตข้างต้นจะดำเนินไปเป็นเวลา 2 ปี
"เราสามารถเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตได้ในทันที" นายเทเคล็ตกล่าว โดยบริษัทคาดว่าจะมีความต้องการ "ระบบขีปนาวุธที่ล้ำสมัยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก"
"บริษัทกำลังวางแผนระยะยาว ไม่ใช่แค่เพิ่มกำลังการผลิตแจฟลินเท่านั้น" โดยคาดว่า บริษัทจะมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นมากกว่าในช่วงสงครามในยูเครน เนื่องจากมีภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากรัสเซียและจีนเป็นปัจจัยหนุน
ทั้งนี้ สหรัฐได้เร่งจัดส่งอาวุธรวมมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์แก่ยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารเมื่อวันที่ 24 ก.พ. โดยอาวุธที่ส่งให้นั้นประกอบด้วยขีปนาวุธแจฟลิน, ปืนครก, ระบบต่อต้านอากาศยานสติงเจอร์ (Stinger), อาวุธปืนและเครื่องกระสุน รวมถึง เสื้อเกราะกันกระสุน
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ได้เดินทางเยือนโรงงานผลิตอาวุธของล็อคฮีด มาร์ตินในรัฐแอละบามาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน พร้อมทั้งเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติเงินช่วยเหลือยูเครนอีก 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะรวมงบช่วยเหลือด้านการทหาร 2 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะใช้งบดังกล่าวเป็นระยะเวลา 5 เดือน