บรรดาผู้นำของสหรัฐและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประกาศในวันศุกร์ (13 พ.ค.) ว่า พวกเขาจะยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมภายในปีนี้ ท่ามกลางอิทธิพลทางทหารและเศรษฐกิจของจีนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย
ในแถลงการณ์ร่วมหลังจากการประชุมสุดยอดเป็นสองวันในกรุงวอชิงตันนั้น สหรัฐและอาเซียนยังเรียกร้องให้มีการเคารพอธิปไตย, ความเป็นอิสระทางการเมือง และบูรณภาพแห่งดินแดนที่เกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครน โดยที่ไม่ระบุชื่อรัสเซียอย่างชัดแจ้ง
แถลงการณ์ระบุว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปีของความสัมพันธ์ในปีนี้ "เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างอาเซียน-สหรัฐที่เป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ร่วมกันในการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐครั้งที่ 10 ในเดือนพ.ย. 2565"
คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนกำลังพยายามเพิ่มการมีส่วนร่วมในภูมิภาคเอเชียที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยดูเหมือนจะเป็นการตอบโต้จีนซึ่งสหรัฐเชื่อว่ากำลังพยายามสร้างอิทธิพลในอินโดแปซิฟิก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งนี้นั้น คณะบริหารของปธน.ไบเดนได้ให้คำมั่นว่า จะลงทุนเป็นมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์ในอาเซียนในด้านความมั่นคงทางทะเล, โครงสร้างพื้นฐาน และโครงการริเริ่มอื่น ๆ
"เราไม่เพียงเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปีของการเป็นหุ้นส่วนและมิตรภาพระหว่างอาเซียนและสหรัฐเท่านั้น แต่เรากำลังเปิดศักราชใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอาเซียน" ปธน.ไบเดนกล่าวในการประชุมเมื่อวันศุกร์
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดที่กรุงวอชิงตันร่วมกับผู้นำอาเซียนจาก 10 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม