หนังสือพิมพ์เดลีเมล์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนเปิดเผยเมื่อคืนวันศุกร์ (13 พ.ค.) ว่า กระบวนการก่อรัฐประหารเพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียได้เริ่มขึ้นแล้ว และรัสเซียจะแพ้สงครามภายในสิ้นปีนี้
นายพลคีรีโล บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของยูเครนกล่าวว่า เขาเชื่อว่าจุดเปลี่ยนของความขัดแย้งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายฤดูร้อนนี้ (มิ.ย.-ส.ค.) และในที่สุดปธน.ปูตินก็จะถูกปลดจากตำแหน่ง
"จุดแตกหักจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนส.ค." นายพลบูดานอฟเปิดเผยกับสกายนิวส์
"การสู้รบส่วนใหญ่จะยุติภายในสิ้นปีนี้ และในที่สุดก็จะนำไปสู่การเปลี่ยนผู้นำของสหพันธรัฐรัสเซีย โดยกระบวนการดังกล่าวได้เริ่มขึ้นแล้ว" นายพลบูดานอฟกล่าวเสริม
นอกจากนี้ บุคคลชั้นสูงชาวรัสเซียรายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ปธน.ปูตินกำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด
ทั้งนี้ บุคคลชั้นสูงดังกล่าวซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทำเนียบเครมลินและใช้ชื่อว่า "ยูริ" เพื่อปิดบังตัวตนของเขานั้นระบุว่า ปัญหาสุขภาพที่เชื่อว่าทำให้ปธน.ปูตินกำลังเผชิญกับความทุกข์ทรมานนั้นเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด
นายพลบูดานอฟเปิดเผยว่า การดำเนินการเพื่อก่อรัฐประหารโค่นล้มปธน.ปูตินนั้นได้เริ่มขึ้นแล้วท่ามกลางการรุกรานของกองทัพรัสเซียในยูเครน
นายพลบูดานอฟยังระบุด้วยปธน.ปูติน วัย 69 ปีมีสภาพร่างกายและจิตใจที่ย่ำแย่มาก โดยกล่าวว่า ปธน.ปูตินกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งและอาการป่วยอื่น ๆ
สุขภาพของปธน.ปูตินเป็นเรื่องที่มีการคาดเดากันไปต่าง ๆ นานาในปีนี้ โดยมีรายงานว่าใบหน้าของปธน.ปูตินนั้นบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อันเนื่องมาจากการใช้สเตอรอยด์เพื่อรักษาอาการป่วยของเขา
นอกจากนี้ ภาพถ่ายวิดีโอที่ผ่านมายังแสดงให้เห็นว่า ปธน.ปูตินได้ใช้มือจับโต๊ะเอาไว้เพื่อไม่ให้มือของเขาสั่น ซึ่งสอดคล้องกับรายงานที่ว่าปธน.ปูตินป่วยด้วยโรคพาร์กินสันด้วย