ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐลงนามคำสั่งบริหารที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูปหลักปฏิบัติของตำรวจระดับรัฐบาลกลาง เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี เหตุตำรวจสังหารจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ขณะดำเนินการจับกุมตัวในเมืองมินนิแอโปลิส รัฐมินนิโซตา
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยถ้อยแถลงของปธน.ไบเดนว่า คำสั่งบริหารดังกล่าวจะ "ส่งเสริมการตรวจสอบ" ด้วยมาตรการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการสร้าง "ฐานข้อมูลการบังคับใช้กฎหมายระดับชาติใหม่ที่ตรวจสอบได้ เพื่อติดตามประวัติการประพฤติมิชอบ เพื่อป้องกันการปกปิดการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ"
นอกจากนี้ คำสั่งบริหารดังกล่าวยังสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการล็อกคอผู้ต้องสงสัย รวมถึงจำกัดการตรวจค้นบ้านโดยไม่แจ้งล่วงหน้าและคุมเข้มนโยบายการใช้กำลังเพื่อลดความตึงเครียด
ครอบครัวของฟลอยด์และบรีออนนา เทเลอร์ ซึ่งถูกตำรวจยิงวิสามัญในปฏิบัติการตรวจค้นบ้านโดยไม่แจ้งล่วงหน้าในเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี เมื่อปี 2563 ได้เดินทางเข้าร่วมพิธีลงนามคำสั่งบริหารครั้งนี้ด้วย
การเสียชีวิตของฟลอยด์จุดชนวนให้เกิดการรวมตัวประท้วงทั่วสหรัฐในฤดูร้อนปี 2563 เพื่อต่อต้านการกระทำที่ทารุณของตำรวจและการเหยียดผิวในเชิงระบบ
ด้านนายเดเรก ชอวิน อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองมินนิแอโปลิส ซึ่งใช้หัวเข่ากดลำคอของฟลอยด์เป็นเวลากว่า 9 นาที ถูกตัดสินโทษคดีฆาตกรรมเมื่อปีที่ผ่านมาและกำลังชดใช้ความผิดในเรือนจำ ขณะที่อดีตตำรวจอีก 3 นายถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงจากข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนของฟลอยด์ในการพิจารณาคดีเมื่อต้นปีนี้