ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถม Robb Elementary School ที่เมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัส และได้วางดอกไม้ที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 21 คน จากเหตุการณ์ที่นายซัลวาดอร์ รามอส ใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ AR-15 บุกเข้าไปในโรงเรียนและก่อเหตุกราดยิง
รายงานระบุว่า ในระหว่างการเยี่ยมเยียนครั้งนี้ มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากฝูงชนที่เดินออกจากพิธีไว้อาลัยว่า "ขอให้ทำอะไรสักอย่างเถอะ" และปธน.ไบเดนก็ตอบกลับว่า "เราจะทำแน่นอน" ก่อนจะขึ้นรถเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิตเป็นการส่วนตัว
ขณะเดียวกัน นายเกร็ก แอบบอต ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ถูกฝูงชนส่งเสียงตะโกนด้วยความไม่พอใจและตำหนิ โดยมีเสียงตะโกนว่า "เราต้องการการเปลี่ยนแปลง ลูกหลานของเราไม่สมควรได้รับสิ่งเหล่านี้"
ปธน.ไบเดินและนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้เดินทางเยี่ยมเยียนครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้รอดชีวิตเป็นเวลาหลายชั่วโมง ก่อนจะหารือร่วมกับหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น
"เรารู้สึกโศกเศร้าไปกับพวกท่าน เราอธิษฐานร่วมกับท่าน เราจะยืนอยู่เคียงข้างพวกท่าน และเราจะมุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงความเจ็บปวดนี้ให้เป็นการกระทำ" ปธน.ไบเดนทวีตข้อความในช่วงเย็นก่อนสิ้นสุดการเดินทางเยือน
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยในวันอาทิตย์ (29 พ.ค.) ว่า ทางกระทรวงจะทบทวนการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงในวันที่ 24 พ.ค.
ทั้งนี้ นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้มีการสั่งห้ามอาวุธปืนจู่โจม และยกระดับการตรวจสอบประวัติการซื้ออาวุธปืน ขณะที่ปธน.ไบเดนได้เรียกร้องให้ชาวอเมริกันยืนหยัดต่อต้านกลุ่มล็อบบี้อาวุธปืนในสหรัฐ