กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียเปิดเผยว่า เครื่องบินขับไล่ J-16 ของจีนซึ่งปฏิบัติภารกิจซ้อมรบได้บินเข้าใกล้เครื่องบินลาดตระเวน P-8 ของออสเตรเลียขณะปฏิบัติภารกิจตามปกติในน่านฟ้าสากลเหนือทะเลจีนใต้เมื่อเดือนที่ผ่านมา และมีการปล่อยเป้าลวง (Chaff/Flare) เข้าใส่เครื่องยนต์ของเครื่องบินออสเตรเลียอย่างน้อยหนึ่งตัว
ทั้งนี้ เครื่องบินรบนั้นมักจะปล่อยเป้าลวง ซึ่งปกติแล้วเป็นพลุที่ทำจากอลูมิเนียมหรือซิงค์ เพื่อหลอกล่อขีปนาวุธให้ยิงคลาดเคลื่อน
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียเผยว่า การเผชิญหน้าดังกล่าวเป็นการกระทำที่อันตราย คุกคามความปลอดภัยของเครื่องบิน P8 และลูกเรือ
นายริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกลาโหมให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียว่า "เครื่องบินขับไล่ J-16 บินเข้าใกล้เครื่องบิน P8 มาก และยังเร่งความเร็วจนบินแซง P8 ก่อนจะลอยลำอยู่ข้างหน้าในระยะที่ใกล้มาก แล้วปล่อยเป้าลวงออกมา ซึ่งเศษอลูมิเนียมชิ้นเล็ก ๆ บางส่วนนั้นเข้าไปในเครื่องยนต์ของเครื่องบิน P8 ซึ่งสร้างอันตรายมาก"
ทางด้านนายปีเตอร์ เลย์ตัน อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศของออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในสถาบันเอเชียแห่งกริฟฟิธกล่าวว่า "เมื่อเศษชิ้นส่วนเข้าไปในเครื่องยนต์ อาจทำให้ใบพัดของเครื่องเสียหายได้ และในกรณีที่เลวร้ายอาจทำให้เครื่องหยุดทำงาน"
ขณะที่นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลได้ยื่นเรื่องดังกล่าวให้ทางการจีนรับทราบแล้ว
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่เครื่องบินจีนและต่างชาติบินเข้าใกล้กัน โดยเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี 2544 ซึ่งเครื่องบินขับไล่ของจีนชนกับเครื่องบินลาดตระเวนของกองทัพเรือสหรัฐเหนือทะเลจีนใต้