ผู้ว่าการเขตคาลินินกราดของรัสเซียเปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียจะเรียกตัวนายมาร์คัส เอเดอเรอร์ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป (EU) ประจำรัสเซียเข้าพบในวันนี้ หลังรัฐบาลลิทัวเนียมีคำสั่งห้ามขนส่งสินค้าผ่านเขตแดนลิทัวเนียภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของ EU
รัฐบาลลิทัวเนียมีคำสั่งห้ามขนส่งสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรโดย EU ผ่านเขตแดนลิทัวเนีย ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าด้วยรถไฟไปมาระหว่างคาลินินกราดที่เป็นดินแดนส่วนแยกในทะเลบอลติก กับพื้นที่ส่วนที่เหลือของประเทศรัสเซียได้ โดยสินค้าที่ถูกคว่ำบาตร ได้แก่ ถ่านหิน, โลหะ, วัสดุก่อสร้าง และเทคโนโลยีขั้นสูง
ทั้งนี้ คาลินินกราดเป็นพื้นที่ที่โดนขนาบอยู่ระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนีย ซึ่งเป็นสองประเทศสมาชิก EU และ NATO โดยคาลินินกราดได้รับสินค้าที่รัสเซียจัดหามาให้ผ่านทางรถไฟและท่อส่งก๊าซ ซึ่งตัดผ่านประเทศลิทัวเนีย
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินได้แสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งดังกล่าวของรัฐบาลลิทัวเนีย โดยกล่าวว่า "การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการละเมิดทุกสิ่งทุกอย่าง และสำหรับรัสเซียแล้วเรื่องนี้ถือว่าผิดกฎหมาย สถานการณ์ครั้งนี้ร้ายแรงอย่างยิ่ง เราจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์เจาะลึกกันอย่างจริงจังเพื่อหาทางตอบโต้"
ทางด้านนายอันตอน อาลีคานอฟ ผู้ว่าการคาลินินกราดเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์รัสเซียว่า สถานการณ์ดังกล่าวสมารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการทางการทูต และเสริมว่า "เท่าที่ผมทราบ นายมาร์คัส เอเดอเรอร์ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำรัสเซียจะถูกเรียกตัวไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และเขาจะได้รับแจ้งให้ทราบถึงเงื่อนไขที่เหมาะสมเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"