นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ย้ำให้บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศ G7 เล็งเห็นความจำเป็นของการร่วมมือกันเพื่อสร้างแนวป้องกันที่เข้มแข็งและเรียนรู้บทเรียนที่เป็นอันตรายจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยนายคิชิดะอ้างถึงการแสดงอิทธิพลของจีนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายคิชิดะได้เน้นย้ำถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ความมั่นคงโดยรอบของญี่ปุ่นในการประชุมกลุ่ม G7 ที่ประเทศเยอรมนี โดยกล่าวกรณีที่จีนส่งเรือหลายลำเข้ามายังน่านน้ำรอบหมู่เกาะเซนกากุ และการสำรวจแหล่งก๊าซในทางทะเลจีนตะวันออกว่าเป็นการพยายามเปลี่ยนแปลงสถานะโดยใช้กำลัง
ทั้งนี้ นายคิชิดะที่กล่าวในที่ประชุม G7 ว่า "เราได้เห็นความพยายามในการใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานภาพอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก" และเสริมว่า "เราจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศอื่น ๆ จะไม่ได้รับบทเรียนที่ผิดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน" พร้อมทั้งเรียกร้องให้ปกป้องความเป็นระเบียบระหว่างประเทศซึ่งอยู่บนพื้นฐานของหลักกฏเกณฑ์
ผู้นำญี่ปุ่นได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้ายิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง และเห็นได้ชัดว่ากำลังจะทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ โดยกล่าวว่า ประชาคมแห่งนี้ไม่ควรทำให้เกาหลีเหนือรู้สึกว่ายังคงมีโอกาสในการพัฒนาขีปนาวุธได้อยู่
นอกจากนี้ นายคิชิดะยังเรียกร้องให้จีนเพิ่มการตรวจสอบความโปร่งใสเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของตน
ทั้งนี้ นายคิชิดะได้กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการประชุมกลุ่ม G7 ถึงเรื่องการทูตและความมั่นคงโดยระบุว่า ญี่ปุ่นจะเสริมสร้างพื้นฐานด้านการป้องกันประเทศด้วยการเพิ่มงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้อง