นางแอฟริล เฮนส์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence: DNI) เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินยังคงต้องการยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ของยูเครน แต่จากการที่กองกำลังของรัสเซียเริ่มอ่อนแรงลงจากการสู้รบนั้น มีแนวโน้มว่ารัสเซียจะยึดพื้นที่ของยูเครนได้ในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น
นางเฮนส์ระบุว่า จากการประเมินข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐเกี่ยวกับสงครามในยูเครนที่ดำเนินมากว่า 4 เดือนนั้น หน่วยงานด้านข่าวกรองหลายแห่งเห็นตรงกันว่า สงครามจะยังคงยืดเยื้อต่อไป
"ในระยะสั้น ภาพของสงครามจะยังคงค่อนข้างดุเดือด ท่าทีของรัสเซียต่อชาติตะวันตกนั้นจะแข็งกร้าวขึ้น" นางเฮนส์กล่าว
ความเห็นของนางเฮนส์สะท้อนให้เห็นว่า เม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐและประเทศอื่น ๆ ช่วยยูเครนจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยนั้น อาจไม่ช่วยพลิกเกมในการต่อกรกับรัสเซียได้ในเร็ววัน
นางเฮนส์ยังระบุด้วยว่า ปูตินจะยังคงเจตนารมณ์เดิมในการบุกโจมตีดินแดนส่วนใหญ่ของยูเครน แม้ยูเครนจะสามารถต้านทานการบุกยึดกรุงเคียฟเมื่อเดือนก.พ.ไว้ได้ ซึ่งทำให้รัสเซียเปลี่ยนเป้าหมายหันไปยึดภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกแทน
"เราคิดว่า ปูตินยังคงมีเป้าหมายทางการเมืองเหมือนเดิมอย่างที่เราเคยคิดไว้ นั่นคือต้องการยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครนให้ได้"
ทั้งนี้ นางเฮนส์ได้แสดงความเห็นดังกล่าว หลังจากที่ผู้นำประเทศสมาชิกของนาโต (NATO) ประณามว่ารัสเซียเป็น "ภัยคุกคามโดยตรง" ต่อความมั่นคงของนาโต และให้คำมั่นที่จะเพิ่มสมรรถนะกองทัพยูเครนให้ทันสมัยมากขึ้น รวมถึงยืนหยัดเคียงข้าง "กองทัพผู้กล้าของยูเครน"