สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กองทหารยูเครนถอนกำลังออกจากเมืองลิซิคานสค์ ฐานที่มั่นสุดท้ายของทัพรัฐบาลเคียฟในแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของประเทศ โดยกองทหารของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ใกล้จะยึดภูมิภาคแห่งนี้ได้ตามเป้าหมาย
ชัยชนะครั้งนี้ของกองทัพปูตินมีขึ้นหลังเกิดการต่อสู้บนท้องถนนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หลังเพิ่งยึดเมืองซีวีโรโดเนสก์ที่อยู่ใกล้เคียงได้สำเร็จ โดยทำเนียบเครมลินได้เปลี่ยนเป้าหมายระยะสั้นมาเป็นการยึดภูมิภาคดอนบาส อันเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมหนักที่ประกอบด้วยแคว้นลูฮันสก์และแคว้นโดเนตสก์ หลังจากที่กองทหารรัสเซียล้มเหลวในการยึดกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
รัสเซียละทิ้งความหวังที่จะชนะสงครามได้อย่างรวดเร็วหลังเปิดฉากบุกเมื่อวันที่ 24 ก.พ. แล้วเปลี่ยนกลยุทธ์มาเน้นขับไล่ชาวยูเครนออกจากภูมิภาคดอนบาส ขณะเดียวกันก็พยายามขัดขวางไม่ให้ชาติตะวันตกส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ถึงกองทัพยูเครนได้ ด้วยการยิงขีปนาวุธใส่เป้าหมายทั่วประเทศเป็นประจำ จนเป็นเหตุให้โจมตีโดนวัตถุพลเรือน สังหารชาวยูเครนไปจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ในปี 2557 รัฐบาลกรุงเคียฟเคยเสียเมืองลิซิคานสค์ให้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียหนุนหลัง แต่กองทหารยูเครนยึดเมืองเหมืองถ่านหินแห่งนี้กลับคืนได้ในเวลาต่อมา
คณะเสนาธิการทหารของกองทัพยูเครนโพสต์ลงเฟซบุ๊กรายงานถึงการตัดสินใจที่จะถอนทัพจากเมืองลิซิคานสค์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ก.ค.) ว่า "เมื่อเผชิญหน้ากับกองกำลังทหารรัสเซียที่มีความได้เปรียบหลายประการในด้านปืนใหญ่, การบิน, ระบบฐานยิง, กระสุนและบุคลากรทางทหาร การป้องกันเมืองต่อไปจะก่อให้เกิดผลร้ายแรง"
"น่าเสียดายที่ความตั้งใจแน่วแน่ดั่งเหล็กกล้าและความรักชาตินั้นไม่เพียงพอต่อความสำเร็จ เราจำเป็นต้องมียุทโธปกรณ์และทรัพยากรทางเทคนิค" คณะเสนาธิการทหารของกองทัพยูเครนระบุ