ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนกล่าวเมื่อวานนี้ (4 ก.ค.) ว่า ยูเครนกำลังหารือร่วมกับประเทศตุรกีและสหประชาชาติ (UN) เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการส่งออกธัญพืชจากท่าเรือยูเครน
"อันที่จริงการเจรจาได้เริ่มขึ้นแล้วในขณะนี้ ระหว่างตุรกีและ UN กับตัวแทนของเราที่รับผิดชอบเรื่องการรักษาความปลอดภัยของธัญพืชที่หายไปจากท่าเรือของเรา" ปธน.เซเลนสกีแถลงข่าวร่วมกับนางแมกดาเลนา แอนเดอร์สสัน นายกรัฐมนตรีสวีเดน
ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า ยูเครนกำลังร่วมงาน "โดยตรง" กับนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN ในประเด็นดังกล่าว และระบุว่า UN นั้น "จะสวมบทบาทเป็นคนนำ ไม่ใช่คนกลาง"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยูเครนซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลกกล่าวหาว่า รัสเซียปิดกั้นไม่ให้เรือขนส่งออกจากท่าได้ ขณะเดียวกัน ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า ธัญพืชจำนวน 22 ล้านตันติดค้างอยู่ที่ท่าเรือ และยังมีผลผลิตที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ในฤดูใบไม้ร่วงรออยู่อีกประมาณ 60 ล้านตัน
นอกจากนี้ ยูเครนยังกล่าวโทษรัสเซียอีกด้วยว่าเป็นผู้ขโมยธัญพืชจากคลังสินค้าออกไปยังรัสเซีย หรือออกไปยังดินแดนที่รัสเซียครอบครอง หรือประเทศอื่น ๆ
อย่างไรก็ดี รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้ปิดกั้นการขนส่งธัญพืชแต่อย่างใด พร้อมกล่าวโทษว่า ยูเครนต่างหากคือตัวการที่ขัดขวางการขนส่ง โดยวางกับระเบิดท่าเรือของตัวเอง
"เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องมีใครสักคนรับประกันความปลอดภัยของเรือสำหรับประเทศนั้นประเทศนี้ ยกเว้นรัสเซียซึ่งเราไม่ไว้ใจ ดังนั้นเราจึงต้องการความปลอดภัยสำหรับเรือเหล่านั้นซึ่งจะมาบรรทุกธัญพืชที่นี่" ปธน.เซเลนสกีกล่าว