นายวิคเตอร์ อาบราโมวิคซ์ นักวิเคราะห์ด้านนโยบายกลาโหมของบริษัทออสโตยา คอลซัลติงคาดการณ์ว่า หลังจากที่กองกำลังทหารของรัสเซียสามารถยึดครองแคว้นลูฮันสก์ได้แล้วนั้น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็จะพุ่งเป้าไปที่การยึดครองพื้นที่ทั้งหมดของแคว้นดอนบาส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน และเชื่อว่าหลังจากนั้นปธน.ปูตินจะยื่นข้อเสนอหยุดยิงกับยูเครน
"ปธน.ปูตินอาจจะยื่นข้อเสนอหยุดยิง หากการหยุดยิงนั้นจะทำให้เขามีโอกาสในการสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพตามที่เขาวางแผนไว้" นายอาบราโมวิคส์ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Capital Connection" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีในวันอังคาร (5 ก.ค.)
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน.ปูตินได้แสดงความยินดีกับกองกำลังรัสเซียที่สามารถยึดครองแคว้นลูฮันสก์ได้ หลังจากที่ต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับทหารของยูเครน โดยทหารรัสเซียได้บุกถล่มระบบสาธารณูปโภคในแคว้นลูฮันสก์จนราบคาบ ซึ่งรวมถึงอาคารที่พักอาศัย และมีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก
ปธน.ปูตินได้สั่งการให้กองทัพรัสเซียเดินหน้าโจมตีแคว้นโดเนตสก์ หลังจากประสบความสำเร็จในการยึดแคว้นลูฮันสก์ โดยเขากล่าวว่า "ทหารรัสเซียซึ่งเข้ารบในแคว้นลูฮันสก์และประสบชัยชนะ ควรพักผ่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรบ ส่วนทหารหน่วยอื่น ๆ จะต้องเดินหน้าตามภารกิจที่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้"
อย่างไรก็ดี นายอาบราโมวิคส์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงมากว่ารัสเซียจะสามารถยึดครองแคว้นดอนบาสแค่ในวงจำกัดเท่านั้น และหากปธน.ปูตินเสนอให้มีการหยุดยิงหลังจากนั้น ก็คาดว่าปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
"ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะเชื่อว่า การยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของรัสเซียจะนำพาไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน" นายอาบราโมวิคส์กล่าว พร้อมระบุเสริมว่า การหยุดยิงจะทำให้กองกำลังรัสเซียมีศักยภาพในการเสริมกำลังทหาร และจะทำการโจมตีอีกครั้งในอนาคต"
ในทางกลับกัน นายอาบราโมวิคส์กล่าวว่า หากปธน.เซเลนสกีไม่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิง ก็อาจทำให้เขามีความเสี่ยงที่จะสูญเสียการสนับสนุนบางส่วนจากชาติตะวันตกที่เขาต้องพึ่งพา