สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายหวัง อี้ เดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงเวลาที่พันธมิตรของชาติฟิลิปปินส์อย่างสหรัฐ กำลังหาทางเพิ่มอิทธิพลของตนในภูมิภาคนี้
"เรายินดีอย่างยิ่งที่ปธน.มาร์กอสให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรต่อประเทศจีน และเราขอกล่าวยกย่องต่อถ้อยแถลงต่าง ๆ เมื่อไม่นานมานี้ที่ได้ส่งสัญญาณเชิงบวกอย่างยิ่งไปถึงโลกภายนอก" นายหวังกล่าวในการพบปะกับนายเอ็นริเก มานาโล รมว.การต่างประเทศของฟิลิปปินส์
นักวิเคราะห์หลายรายคาดว่าชัยชนะในการเลือกตั้งของนายมาร์กอสเป็นผลดีต่อจีนมากกว่าสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ลูกชายของอดีตผู้นำกำปั้นเหล็กที่ถูกมวลชนขับไล่ในปี 2529 รายนี้ แถลงต่อประชาชนไว้ชัดว่า ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนจะต้องไม่ทำให้อำนาจอธิปไตยเสียหาย
ทั้งนี้ ความแข็งกร้าวและพฤติกรรมของจีนในน่านน้ำนอกประเทศฟิลิปปินส์สร้างความตึงเครียดทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศนี้มาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ดี ปธน.มาร์กอสกล่าวว่าเขาต้องการให้ความสัมพันธ์กับจีนเป็นมากกว่าแค่เรื่องข้อพิพาททางทะเล
ด้านนายหวังกล่าวว่า จีนเห็นด้วยกับปธน.มาร์กอสที่ปรารถนาจะกระชับความสัมพันธ์ 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
"เราพร้อมจะดำเนินงานร่วมกับฟิลิปปินส์เพื่อให้มุ่งไปในทิศทางเดียวกัน และพร้อมจะวางแผนประสานงานกันต่อไปในทุก ๆ ด้าน ผมมั่นใจว่าเมื่อทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันแล้ว เราก็จะเริ่มยุคทองครั้งใหม่สำหรับความสัมพันธ์แบบทวิภาคีได้"
อนึ่ง ปธน.มาร์กอสต้องรักษาสมดุลด้านความสัมพันธ์กับ 2 ชาติมหาอำนาจที่เป็นคู่ขัดแย้งกัน โดยด้านหนึ่งก็พยายามเพิ่มความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจีน ส่วนอีกด้านหนึ่งก็พยายามคงความสัมพันธ์ด้านการทหารกับสหรัฐ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมที่ยังคงมีอิทธิพลอยู่มากต่อกองทัพและประชาชนชาวฟิลิปปินส์