ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้แสดงความประสงค์ที่ร่วมมือกับรัฐบาลอังกฤษอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยไม่ได้เอ่ยถึงนายบอริส จอห์นสัน ซึ่งลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษหลังไม่ได้รับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรีอีกต่อไป
"สหราชอาณาจักรและสหรัฐเป็นพันธมิตรและเพื่อนที่สนิทกันที่สุด และความสัมพันธ์พิเศษระหว่างประชาชนของทั้งสองชาติจะยังคงแข็งแกร่งยืนยง" ปธน.แถลงเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายจอห์นสันประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อวานนี้
"ผมตั้งตารอที่จะได้เดินหน้าร่วมมือกับรัฐบาลของสหราชอาณาจักร ตลอดจนพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราทั่วโลกในเรื่องสำคัญต่าง ๆ" ซึ่งรวมถึง "พร้อมใจกันรักษาแนวทางที่เข้มแข็งในการสนับสนุนประชาชนชาวยูเครน" ปธน.ไบเดนกล่าว
อีกด้านหนึ่ง นางแครีน ฌ็อง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ปธน.ไบเดนกับนายจอห์นสันเพิ่งพบกันเมื่อไม่นานมานี้ในระหว่างการเดินทางเยือนยุโรปของปธน.ไบเดน
"พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและเป็นมิตรกันพอสมควร เราเชื่อว่าความเป็นพันธมิตรของเรากับสหราชอาณาจักรจะยังคงแข็งแกร่งต่อไป" นางฌ็อง-ปิแอร์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหราชอาณาจักรและสหรัฐมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดมาตั้งแต่อดีต รวมถึงการร่วมบุกอิรักซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก นอกจากนี้ อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ และนายจอห์นสันต่างก็เป็นผู้นำที่มีแนวคิดชาตินิยมอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ทั้งสองชาติก็ไม่ได้เห็นตรงกันเสมอไป โดยนายบารัค โอบามา ขณะดำรงตำแหน่งปธน.สหรัฐ วิงวอนให้ประชาชนชาวอังกฤษโหวตเลือกอยู่กับสหภาพยุโรป (EU) ต่อไปในการทำประชามติ "เบร็กซิต" (Brexit) ขณะที่นายจอห์นสันสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้อังกฤษออกจาก EU