นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนเรียกร้องให้นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ปฏิบัติกับจีนในฐานะพันธมิตร ไม่ใช่ศัตรู และสร้างพลังในเชิงบวกเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ ในการประชุมนอกรอบรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) รมว.ต่างประเทศของจีนแสดงความหวังว่า ออสเตรเลียจะใช้โอกาสนี้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และทำความเข้าใจจีนอย่างถูกต้อง ตามรายงานสรุปการประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศจีนเผยแพร่เมื่อคืนวันเสาร์ (9 ก.ค.)
นายหวังกล่าวอีกว่า "ต้นเหตุของปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลียในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เป็นเพราะรัฐบาลชุดเก่าของออสเตรเลียยืนกรานที่จะปฏิบัติกับจีนเหมือนเป็นศัตรู และมองจีนเป็นเสมือนภัยคุกคาม" และเพิ่มเติมอีกว่า "คำพูดและการกระทำของออสเตรเลียนั้นบ่งบอกถึงความไม่รับผิดชอบ"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนได้จำกัดการนำเข้าถ่านหินและสินค้าอื่น ๆ จากออสเตรเลียมาตั้งแต่ปี 2563 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่พอใจที่รัฐบาลออสเตรเลียในขณะนั้นเรียกร้องให้มีการสอบสวนต้นตอการระบาดของโควิด-19, การสอบสวนการแทรกแซงทางการเมืองของจีนในออสเตรเลีย รวมถึงการสั่งแบนบริษัทหัวเว่ยของจีนไม่ให้เข้าร่วมโครงการ 5G ของออสเตรเลีย
ทางด้านนางหว่องเผยว่า การหารือกับรัฐมนตรีของจีนถือเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ให้มีเสถียรภาพ แต่อาจต้องใช้เวลากว่าที่รัฐบาลจีนจะยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้ากับออสเตรเลีย
นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิก โดยนายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียออกมาแสดงความเห็นเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลจีนมีท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น