ผู้ต้องหาในคดีลอบยิงอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาเชื่อว่าปู่ของนายอาเบะเป็นผู้ที่นำ "ลัทธิมูน" ที่ผู้ต้องหาเกลียดชังเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววันนี้ว่า ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่านายเท็ตสึยะ ยามากามิ วัย 41 ปี ได้หลงเชื่อข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ทำให้เขานำความเกลียดชังที่มีต่ออดีตนายกรัฐมนตรี โนบุสุเกะ คิชิ ไปลงกับนายอาเบะผู้เป็นหลาน จนตัดสินใจลอบสังหารนายอาเบะในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ก.ค.)
นายยามากามิ อดีตสมาชิกกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น อธิบายว่า แม่ของเขาเป็นผู้ศรัทธาในลัทธิมูนซึ่งเธอได้บริจาคเงินเป็นจำนวนมากจนทำให้ครอบครัว "พังทลาย" และเสริมว่า เขาเลือกนายอาเบะเป็นเป้าหมายเพราะเชื่อว่านายอาเบะมีความเกี่ยวพันกับกับกลุ่มดังกล่าว พร้อมทั้งปฏิเสธว่า การก่อเหตุลอบยิงที่เมืองนารานั้นไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก (FFWPU) หรือ "โบสถ์แห่งความสามัคคี" (หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ลัทธิมูน") แถลงข่าวในกรุงโตเกียววันนี้ว่า แม่ของนายยามากามินั้นเป็นสาวกของ FFWPU จริง
อนึ่ง กลุ่มลัทธิดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในด้านความเชื่อแบบอนุรักษ์นิยมและมีต้นกำเนิดมาจากต่างประเทศ โดยมีสาวกจำนวนมากในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ลัทธิดังกล่าวยังมีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองทั่วโลกอีกด้วย
นายคิชิ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2500-2503 ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อตั้งกลุ่มการเมืองที่เชื่อมโยงกับลัทธิมูน ส่วนนายอาเบะก็เคยส่งสาส์นไปยังงานกิจกรรมที่จัดโดยอีกกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับลัทธินี้เมื่อปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าปู่ของนายอาเบะเป็นผู้เชิญลัทธิมูนเข้าสู่ญี่ปุ่นจริงหรือไม่ และเชื่อกันว่ากลุ่มคนในลัทธิที่เป็นชาวต่างชาติเป็นผู้มีส่วนในการเผยแผ่ลัทธินี้