นายเบอร์นี แซนเดอร์ วุฒิสมาชิกสหรัฐออกโรงวิจารณ์เมื่อวันอาทิตย์ (17 ก.ค.) กรณีประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย โดยระบุว่าการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นรางวัลที่มอบให้กับเผด็จการ ทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะผู้นำซาอุดีอาระเบียพัวพันเหตุฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวของวอชิงตันโพสต์ในปี 2561
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ไบเดนและมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานทักทายกันด้วยการชนกำปั้นทันทีที่ผู้นำสหรัฐเดินทางถึงซาอุดีอาระเบีย แม้หน่วยข่าวกรองสหรัฐเชื่อว่า มกุฎราชกุมารบิน ซัลมานเป็นผู้สั่งให้สังหารนายคาช็อกกี
"ผมไม่คิดว่าประธานาธิบดีสหรัฐควรให้รางวัลรัฐบาลที่ผู้นำพัวพันกับเหตุฆาตกรรมนักข่าวของวอชิงตันโพสต์" นายแซนเดอร์กล่าวกับนายจอร์จ สเตฟาโนพูลอสในรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี เมื่อถูกถามว่าปธน.ไบเดนควรเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียหรือไม่
เหตุสังหารนายคาช็อกกี ชาวซาอุดีอาระเบียผู้วิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์และลี้ภัยอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย ถือเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญระหว่างสองประเทศ โดยเจ้าชายบิล ซัลมาน ผู้นำโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหา
ปธน.ไบเดนระบุเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า เขาได้กล่าวกับเจ้าชายบิน ซัลมานว่า เขาถือว่าพระองค์รับผิดชอบต่อเหตุฆาตกรรมนายคาช็อกกี แต่เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียกล่าวว่าปธน.ไบเดนไม่ได้กล่าวตามที่อ้าง
การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพลิกฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับซาอุฯ แม้ปธน.ไบเดนเคยประกาศว่าเขาจะโดดเดี่ยวซาอุฯ ในระดับสากล โดยปธน.ไบเดนพยายามลดราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งสูงแตะระดับประวัติการณ์ในปีนี้ ก่อนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย. โดยเรียกร้องให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อชดเชยน้ำมันรัสเซีย หลังชาติตะวันตกพร้อมใจกันคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียโทษฐานรุกรานยูเครน
ขณะเดียวกัน เจ้าชายบิน ซัลมาน ทรงตกลงเพิ่มการผลิตน้ำมันประมาณ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะทรงกล่าวสุนทรพจน์ในการเปิดประชุมสุดยอดผู้นำอาหรับ หลังจากที่ปธน.ไบเดนได้เข้าเฝ้า