นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า สหรัฐกำลังพิจารณาแนวทางยกระดับการคว่ำบาตรรัฐบาลเมียนมา หลังจากที่รัฐบาลทหารของเมียนมาได้สั่งประหารชีวิตอดีตนักการเมืองผู้สนับสนุนประชาธิปไตยและนักเคลื่อนไหวรวม 4 ราย โดยเป็นการใช้โทษประหารชีวิตครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐยังได้เรียกร้องให้นานาประเทศเลิกขายอุปกรณ์ทางทหารให้เมียนมา และงดกระทำการใด ๆ ที่จะทำให้รัฐบาลทหารดูมีความน่าเชื่อถือในระดับสากล ทั้งยังขอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนห้ามไม่ให้รัฐบาลทหารของเมียนมาส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุมด้วย
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐกำลังพิจารณาทุกทางเลือก ซึ่งหมายความว่าอาจรวมถึงอุตสาหกรรมก๊าซของเมียนมา ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐไม่ได้ประกาศคว่ำบาตรเอาไว้
ทั้งนี้ นายจ่อ มิน ยู หรือจิมมี่ ผู้นำกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านนายพลเนวิน อดีตผู้นำเผด็จการ และนายเปียว เซยา ตอ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติสังกัดพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ถูกศาลทหารตั้งข้อหากบฏและก่อการร้าย และถูกตัดสินประหารชีวิตจากข้อหา "ทำการก่อการร้ายที่โหดร้ายป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม เช่น สังหารผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก"
สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OHCHR) เปิดเผยว่า การประหารชีวิตดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2531 รวมถึงการสังหารพลเรือนนอกกระบวนการยุติธรรมอีกประมาณ 2,000 ครั้งจากกองทัพเมียนมาในช่วงไม่ถึง 18 เดือนมานี้