นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งเดินทางถึงไต้หวันเมื่อช่วงค่ำของวันอังคาร (2 ส.ค.) มีแผนที่จะพบปะกับนางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันและจะจัดแถลงข่าวร่วมกันในวันนี้เวลาประมาณ 10.53 น.ตามเวลาท้องถิ่น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นางเพโลซีเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกของสหรัฐในรอบ 25 ปีที่เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งส่งผลให้จีนประกาศว่าจะทำการทดสอบขีปนาวุธและจัดการซ้อมรบในบริเวณใกล้กับช่องแคบไต้หวัน และถือเป็นการใช้มาตรการเชิงรุกทางทหารที่แข็งกร้าวที่สุดของจีนในรอบหลายสิบปี
ทั้งนี้ นางเพโลซีแถลงหลังจากเดินทางถึงไต้หวันว่า การเยือนไต้หวันของเธอในครั้งนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับจุดยืนด้านนโยบายของสหรัฐแต่อย่างใด และสหรัฐยังคงต่อต้านความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสถานภาพของไต้หวันแต่เพียงฝ่ายเดียว
"การที่เจ้าหน้าที่สภาคองเกรสของสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน ถือเป็นการให้เกียรติต่อความมุ่งมั่นของสหรัฐที่จะสนับสนุนประชาธิปไตยของไต้หวันต่อไป" นางเพโลซีกล่าว
ทันทีที่นางเพโลซีเดินทางถึงไต้หวัน ทางการจีนได้ออกแถลงการณ์ประณามและประกาศว่าจะจัดการซ้อมรบทางทหาร ซึ่งรวมถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธระยะไกลใกล้กับเขตแดนไต้หวันในช่วงเช้าวันนี้ และจะจัดการซ้อมรบบริเวณรอบ ๆ เกาะไต้หวันตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.นี้ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ CCTV รายงานว่า จีนได้เริ่มทำการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศรอบเกาะไต้หวันแล้ว
กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐหลังจากนางเพโลซีเดินทางถึงไต้หวันในช่วงค่ำวานนี้ โดยระบุว่าเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรากฐานความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน อีกทั้งยังทำลายเสถียรภาพและสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า จีนคัดค้านและไม่สามารถยอมรับการเดินทางเยือนไต้หวันของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐ รวมถึงการเดินทางของนางเพโลซี โดยจีนจะใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนเพื่อตอบโต้การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี และสหรัฐจะต้องรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีน