ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนเปิดโอกาสในการเจรจาโดยตรง พร้อมทั้งระบุว่า จีนไม่เคยตอบรับคำขอดังกล่าวมาตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อ 5 เดือนก่อน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.สี ได้ปฏิเสธที่จะประณามการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน และประกาศย้ำว่ามิตรภาพกับปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินนั้นไม่มีขีดจำกัด จึงอาจทำให้การหารือกับผู้นำยูเครนนั้นเป็นเรื่องที่สร้างความลำบากใจ
ขณะที่การหารือระหว่างผู้นำยูเครนและจีนนั้นจำกัดอยู่แค่การหารือระดับนักการทูตเท่านั้น เช่นการหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของสองประเทศ
ปธน.เซเลนสกีให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ว่า การหารือครั้งล่าสุดระหว่างยูเครนและจีนนั้นเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว โดยหลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ยูเครนได้ขอหารือกับผู้นำจีนอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ได้รับคำตอบ ขณะที่ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า การหารือกับผู้นำจีนนั้นจะเป็นประโยชน์
ผู้นำยูเครนกล่าวว่า "จีนยังมีโอกาสแสดงบทบาทเชิงบวกเพื่อยุติความขัดแย้งนี้ และในฐานะประเทศมหาอำนาจจีนควรจะยื่นมือเข้ามาและหาทางคลี่คลายปัญหาของรัสเซีย" และกล่าวอีกว่า "ใคร ๆ ก็รักลูกหลานของตัวเอง ทุกคนล้วนต้องการอยู่อย่างสันติ"
ทั้งนี้ แม้ว่าจีนจะยังเคารพสิทธิ์ในการปกป้องอธิปไตยของยูเครน แต่จีนก็ไม่ได้โหวตลงมติเห็นชอบตามคำสั่งของศาลโลกเมื่อเดือนมี.ค. ที่สั่งให้รัสเซียระงับปฏิบัติการทางทหารโดยทันที และปฏิเสธการร่วมคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อโดดเดี่ยวปธน.ปูติน และโทษว่าสหรัฐเป็นตัวการทำให้เกิดความขัดแย้งจากการขยายอิทธิพลของนาโตสู่ยุโรปตะวันออก