นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ตกลงร่วมกันในวันนี้ที่จะทำงานร่วมกันเพื่อรับประกันสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน หลังการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีสร้างความไม่พอใจให้กับจีน และนำมาซึ่งการตอบโต้ด้วยการซ้อมรบ ซึ่งทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคตึงเครียดขึ้น
นายคิชิดะแสดงความหวังว่า นางเพโลซีจะยังคงแสดงความเป็นผู้นำในการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีและสร้างภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ทั้งสองประเทศผลักดันเพื่อรักษาประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม
"เรายืนยันว่าเราจะทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าช่องแคบไต้หวันจะมีสันติภาพและเสถียรภาพต่อไป" นายคิชิดะกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการพบปะกับนางเพโลซีระหว่างรับประทานอาหารเช้า
นายคิชิดะกล่าวว่า "พฤติกรรมของจีนสร้างผลกระทบร้ายแรงให้กับสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคและของโลก และผมขอเรียกร้องให้จีนหยุดการซ้อมรบในทันที"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นางเพโลซีเดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นทริปสุดท้ายของการเดินทางเยือนเอเชีย ซึ่งนางเพโลซีได้เดินทางเยือนสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยหลายชั่วโมงก่อนเครื่องบินของนางเพโลซีจะเดินทางถึงญี่ปุ่นนั้น จีนได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัวอย่างน้อย 9 ลูก ซึ่ง 5 ลูกในจำนวนนั้นตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ นายคิชิดะและนางเพโลซียังได้หารือเกี่ยวกับความท้าทายอื่น ๆ สำหรับทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงเกาหลีเหนือซึ่งครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และรัสเซียหลังการรุกรานยูเครน เช่นเดียวกับความพยายามที่จะทำให้โลกปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งเป็นเป้าหมายของนายคิชิดะ