กระทรวงกลาโหมจีนออกโรงชี้แจงหลังรัฐบาลจีนประกาศระงับการเจรจาทางทหารกับสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เพื่อตอบโต้การที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับเตือนว่า สหรัฐต้องยอมรับผลร้ายแรงที่ตามมา
"สถานการณ์ที่ตึงเครียดบริเวณช่องแคบไต้หวันในขณะนี้เกิดขึ้นและเป็นผลจากการยั่วยุของฝ่ายสหรัฐเอง ซึ่งสหรัฐต้องรับผิดชอบทั้งหมด รวมถึงผลที่ตามมาอันร้ายแรงสำหรับเรื่องนี้" นายอู๋ เชียน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีนโพสต์ข้อความ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีสร้างความไม่พอใจให้กับจีนซึ่งถือว่าไต้หวันเป็นเพียงดินแดนส่วนหนึ่งของจีน และจีนได้ตอบโต้ด้วยการซ้อมรบครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามกรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน
นายอู๋ยังชี้แจงคำถามเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวว่า "มาตรการรับมือที่เกี่ยวข้องเป็นคำเตือนที่จีนพึงกระทำต่อการยั่วยุของสหรัฐและไต้หวัน รวมถึงเป็นการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติโดยชอบด้วยกฎหมาย"
นักวิเคราะห์และนักการทูตด้านความมั่นคงเผยว่า การยุติการเจรจาบางด้านระหว่างจีนกับกองทัพสหรัฐนั้น ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ประเด็นไต้หวันจะถูกยกระดับความรุนแรงขึ้นในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การที่เจ้าหน้าที่จีนไม่ตอบรับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลาโหมสหรัฐท่ามกลางความตึงเครียดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้แปลว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการตัดสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับบุคคลระดับสูง อย่างนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ