นายหว่อง ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนต่อไป ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางที่ "น่ากังวลอย่างยิ่ง" ภายหลังการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อช่วงต้นเดือน จนเป็นเหตุให้จีนจัดซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศรอบเกาะไต้หวันเพื่อเป็นการตอบโต้
"เราจะเริ่มเห็นการตัดสินใจในหลาย ๆ ครั้งจากทั้งสองประเทศที่จะนำเราไปสู่จุดที่อันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่เขาพูดกันคือ ไม่มีใครมีเจตนาอยากจะสู้กัน แต่เรากำลังเดินละเมอเข้าสู่ความขัดแย้ง และนั่นคือปัญหาและอันตรายใหญ่หลวงที่สุด" นายหว่องกล่าว
นายหว่องแสดงความกังวลว่าอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในช่องแคบไต้หวันหรือทะเลจีนใต้ โดยยกเหตุการณ์ในปี 2544 เป็นตัวอย่าง ที่เครื่องบินสอดแนมสหรัฐลงจอดฉุกเฉินบนเกาะไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน หลังบินชนกับเครื่องบินเจ็ทของจีนกลางอากาศ ซึ่งในที่สุดจีนก็ปล่อยตัวกลุ่มลูกเรือสหรัฐทั้งหมดหลังจากที่ทางสหรัฐแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศแถบเอเชียที่เรียกร้องให้สหรัฐกับจีนหลีกเลี่ยงการปะทะกัน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อประเทศเล็ก ๆ ในภูมิภาคนี้ได้อย่างรวดเร็ว โดยสิงคโปร์สนับสนุนอิทธิพลของสหรัฐในเอเชียโดยอนุญาตให้สหรัฐเข้าถึงค่ายทหารในประเทศได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยกให้จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของตน