ประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเห ผู้นำศรีลังกา กล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ขยายประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากที่มีการบังคับใช้ก่อนหน้านี้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ
ทั้งนี้ ทำเนียบประธานาธิบดีศรีลังกาออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขยายประกาศภาวะฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
รัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือนเมื่อวันที่ 18 ก.ค.เพื่อสกัดเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศจากผลพวงของวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ประท้วงบุกบ้านพักและทำเนียบประธานาธิบดี โดยประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวจะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้
ขณะเดียวกัน ปธน.วิกรมสิงเหกล่าวว่า รัฐบาลศรีลังกาไม่ได้ใช้งบประมาณของประเทศมาสนับสนุนค่าใช้จ่ายของนายโคฐาภยะ ราชปักษะ อดีตผู้นำศรีลังกา ในระหว่างที่อยู่ต่างประเทศแต่อย่างใด
"ท่านโคฐาภยะ ราชปักษะไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐบาลในระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ โดยค่าใช้จ่ายทุกอย่างมาจากเงินส่วนตัวของท่าน" กระทรวงสารสนเทศของศรีลังการะบุ
นอกจากนี้ Newsfirst ซึ่งเป็นสื่อของศรีลังการายงานว่า นายราชปักษะจะเดินทางออกจากประเทศไทย และกลับสู่ศรีลังกาในสัปดาห์หน้า
Newsfirst รายงานข่าวดังกล่าวจากการเปิดเผยของนายอุทัยยัง วีระตุงคะ อดีตเอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำรัสเซีย และเป็นหลานของนายราชปักษะ โดยระบุว่า นายราชปักษะจะเดินทางกลับสู่ศรีลังกาในวันที่ 24 ส.ค.
ขณะนี้ นายราชปักษะกำลังพำนักอยู่ในประเทศไทย หลังจากลี้ภัยออกจากศรีลังกาโดยได้เดินทางไปยังสิงคโปร์ในวันที่ 14 ก.ค.ผ่านทางมัลดีฟส์ หลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศจากผลพวงของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษ และไม่กี่วันหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงบุกบ้านพักและทำเนียบประธานาธิบดี
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายราชปักษะประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และกลายเป็นผู้นำศรีลังกาคนแรกที่ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ