นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลออสเตรเลียพิจารณาที่จะทำการสอบสวนนายสก็อต มอร์ริสัน อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวงเป็นการลับในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายมอร์ริสันซึ่งลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพ.ค. สาบานตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญ 5 กระทรวงเป็นการลับในระหว่างโควิด-19 ระบาด ซึ่งเป็นการใช้อำนาจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การกระทำดังกล่าวนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคแรงงานและพรรคเสรีนิยมของนายมอร์ริสันเอง แต่ตัวนายมอร์ริสันอ้างว่าการกระทำดังกล่าวทำไปด้วยความรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพียงผู้เดียว
ในวันนี้ นายอัลบาเนซีเปิดเผยว่า รัฐบาลจะได้รับคำแนะนำจากรองอธิบดีกรมอัยการ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กฎหมายระดับสูงสุดอันดับ 2 ของออสเตรเลียในวันจันทร์ เกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายในการกระทำของนายมอร์ริสัน
นายอัลบาเนซีให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ว่า "เราจะตรวจสอบปัญหาเหล่านั้นทั้งหมดหลังจากที่เราได้รับคำแนะนำจากรองอธิบดีกรมอัยการแล้ว ผมกำลังนำคณะรัฐบาลที่เหมาะสมที่มีกระบวนการที่เหมาะสมและจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่"
ก่อนหน้านี้ นายอัลบาเนซีกล่าวว่า นายมอร์ริสันได้โจมตีระบบรัฐบาลออสเตรเลียด้วยการแต่งตั้งตนเองเข้าในหลายกระทรวงเป็นการลับ รวมถึง กระทรวงกิจการภายในประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการเงินและทรัพยากรในระหว่างปี 2563-2564
ด้านนายมอร์ริสันระบุว่า ไม่ได้ "เข้ายึด" กระทรวงดังกล่าวหลังสาบานตนในตำแหน่งข้าหลวงใหญ่ และไม่มีรัฐมนตรีคนใดถูกแทรกแซง เว้นแต่ครั้งเดียวที่ตัวเขาปฏิเสธโครงการทรัพยากร