นางมาร์ชา แบล็กเบิร์น วุฒิสมาชิกสหรัฐสังกัดพรรครีพับลิกันและเป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้านบริการอาวุธของวุฒิสภา (Senate Armed Services Committee) ได้เดินทางถึงไต้หวันเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ซึ่งนับเป็นการเยือนไต้หวันเป็นครั้งที่ 2 ของสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐ ภายหลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันในช่วงต้นเดือนนี้
นางแบล็กเบิร์นระบุในแถลงการณ์ว่า การเดินทางเพื่อเข้าพบผู้นำไต้หวันในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระชับและเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และการเดินทางเยือนไต้หวันเป็นประจำของเจ้าหน้าที่ระดับสูงนั้นเป็นนโยบายที่มีมาอย่างยาวนานของสหรัฐ
"ดิฉันจะไม่ยอมหันหลังให้กับไต้หวันเพียงเพราะถูกข่มขู่จากพรรคคอมมิวนิสต์จีน" นางแบล็กเบิร์นกล่าว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นางเพโลซี หนึ่งในสมาชิกพรรคเดโมแครตได้เดินทางเยือนไต้หวันโดยไม่แยแสคำเตือนจากจีน ซึ่งจีนมองว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งที่ทรยศต่อแผ่นดินใหญ่ และรอการรวมชาติด้วยกำลัง หากจำเป็น
การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีดังกล่าว ได้กระตุ้นให้จีนตอบโต้ด้วยการซ้อมรบครั้งใหญ่บริเวณรอบเกาะไต้หวัน รวมถึงข้ามเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างจีนกับไต้หวันหลายครั้ง ซึ่งเป็นการแบ่งพื้นที่ซึ่งทั้งสองชาติยอมรับกันมาตลอดหลายสิบปี
ทั้งนี้ สหรัฐได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการรับรองทางการทูตจากไต้หวันเป็นจีนในปี 2522 แต่ยังคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการกับไต้หวัน พร้อมทั้งคอยสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ไต้หวันมีขีดความสามารถเพียงพอในการป้องกันตนเองได้