สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายโคฐาภยะ ราชปักษะ อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา จะเดินทางกลับศรีลังกาในวันนี้ (2 ก.ย.) หลังจากหลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวคาดการณ์ว่า นายราชปักษะจะพักอาศัยอยู่ในบ้านที่รัฐบาลจัดหาให้ในกรุงโคลัมโบ ขณะที่หนังสือพิมพ์เมาบิมา (Mawbima) ของศรีลังการายงานเช่นกันว่า นายราชปักษะจะเดินทางกลับประเทศในวันนี้
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีของนายรานิล วิกรมสิงเห ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนปัจจุบันของศรีลังกา ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว นายราชปักษะได้ลี้ภัยออกจากศรีลังกาโดยเดินทางไปยังสิงคโปร์ในวันที่ 14 ก.ค.ผ่านทางมัลดีฟส์ หลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศจากผลพวงของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษ และไม่กี่วันหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงบุกบ้านพักและทำเนียบประธานาธิบดี กระทั่งในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา นายราชปักษะได้ลี้ภัยมายังประเทศไทยโดยใช้หนังสือเดินทางทูต
เจ้าหน้าที่ศรีลังกาเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า ท้ายที่สุดแล้วนายราชปักษะจะเดินทางกลับมายังศรีลังกา ซึ่งเขาจะได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยและสิทธิพิเศษในฐานะอดีตประธานาธิบดี
ทั้งนี้ ศรีลังกาเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรง อันเนื่องมาจากความผิดพลาดในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทำให้ศรีลังกาซึ่งมีประชากร 22 ล้านคนไม่สามารถชำระเงินเพื่อการนำเข้าสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหาร ปุ๋ย ยารักษาโรค และเชื้อเพลิง เนื่องจากรัฐบาลขาดแคลนสกุลเงินดอลลาร์ และต้องพิมพ์เงินรูปีเพื่อจ่ายเงินเดือนให้กับข้าราชการ จนทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับรัฐบาลศรีลังกา โดย IMF จะจัดหาเงินกู้ระยะเวลา 48 เดือนวงเงิน 2.9 พันล้านดอลลาร์ให้กับศรีลังกา เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจของศรีลังกา
เงินกู้ดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้โครงการ "Extended Fund Facility" ของ IMF ซึ่งเป็นโครงการที่ IMF จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ในการรับมือกับปัญหาดุลชำระเงินหรือกระแสเงินสดหมุนเวียน
ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของศรีลังกาจะหดตัวลง 8.7% ในปีนี้ และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งเหนือระดับ 60%