ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้กล่าวปราศัยที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือเพนตากอนเมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) เนื่องในโอกาสครบรอบเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายก่อเหตุโจมตีสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 โดยปธน.ไบเดนได้กล่าวถึงความสามัคคีของชาวอเมริกันที่มีต่อเหตุดังกล่าว พร้อมให้คำมั่นว่าเราจะ "ไม่มีวันยอมแพ้" ต่อการคุกคามจากผู้ก่อการร้าย
"แม้ 20 ปีของการทำสงครามกับผู้ก่อการร้ายในอัฟกานิสถานได้สิ้นสุดลง แต่ภารกิจของเราที่จะป้องกันการโจมตีสหรัฐในวันข้างหน้าจะไม่มีวันสิ้นสุด" ปธน.ไบเดนกล่าวในพิธีรำลึกถึงผู้วายชนม์ที่จัดขึ้นท่ามกลางสายฝน ณ อาคารเพนตากอน โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นที่นิวยอร์กและรัฐอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงเช้าวันอังคารที่ 11 ก.ย. 2544 ผู้ก่อการร้ายได้ทำการจี้เครื่องบินโดยสารจำนวน 4 ลำ และบังคับให้พุ่งชนเป้าหมาย 4 แห่งในสหรัฐ โดย 2 ลำแรกโจมตีตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์ก ส่วนลำที่ 3 โจมตีเพนตากอนที่ตั้งอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย และลำที่ 4 เชื่อกันว่ามีเป้าหมายถล่มอาคารรัฐสภาสหรัฐ หรือทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แต่แผนการล้มเหลว เนื่องจากผู้โดยสารพากันขัดขืนและต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย ทำให้เครื่องบินตกลงในทุ่งแห่งหนึ่งในรัฐเพนซิลเวเนีย
ทั้งนี้ เหตุสะเทือนขวัญดังกล่าวคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 3,000 ราย
ต่อมา นายโอซามา บิน ลาดิน หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะห์ผู้บงการอยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายดังกล่าว ถูกกองทัพสหรัฐสังหารในปี 2554 ส่วนนายอัยมาน อัล-ซอวาฮิรี หนึ่งในผู้ร่วมก่อการคนสำคัญและผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์คนต่อมา ก็ถูกปลิดชีพด้วยโดรนสหรัฐเมื่อปลายเดือนก.ค. 2565 ในอัฟกานิสถาน
"เราจะไม่หยุดพัก เราจะไม่มีวันลืม เราจะไม่มีวันยอมแพ้ เราจะเดินหน้าเฝ้าติดตามและขัดขวางการก่อการร้ายเหล่านั้นต่อไป ไม่ว่าเราจะพบพวกเขาที่ไหนหรือจะเกิดขึ้นที่ไหนก็ตาม" ปธน.ไบเดนกล่าว