ผลเอ็กซิทโพลระบุว่า นางจอร์เจีย เมโลนี ผู้นำพรรคบราเธอร์ส ออฟ อิตาลี ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ชนะศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ (25 ก.ย.) และเตรียมก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลี
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า หากมีการประกาศชื่อผู้คว้าชัยชนะอย่างเป็นทางการ นางเมโลนีตั้งเป้าที่จะจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายขวาจัดที่สุดในอิตาลีนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งจะสร้างความหวั่นวิตกให้กับประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป เนื่องจากอิตาลีเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 3 ของสหภาพยุโรป (EU)
ผลเอ็กซิทโพลของไร (Rai) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งอิตาลีระบุว่า นางเมโลนีมีแนวโน้มคว้าชัยชนะด้วยคะแนนเสียงระหว่าง 22% -26% เหนือนายเอ็นริโก เลตต้า คู่แข่งที่สูสีที่สุดจากพรรคฝ่ายกลางซ้าย
ความได้เปรียบดังกล่าวตอกย้ำด้วยการคาดการณ์แรกจากผลเอ็กซิทโพลของไร ซึ่งบ่งชี้ว่านางเมโลนีคว้าเก้าอี้ในวุฒิสภามากว่าหนึ่งในสี่ที่นั่ง โดยการคาดการณ์ดังกล่าวอิงมาจากผลการเลือกตั้งอันเป็นรูปธรรม ในขณะเดียวกัน ชาวอิตาลีได้เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย
ขณะนี้ คาดการณ์ว่าพันธมิตรฝ่ายขวาจัดของนางเมโลนีจะได้สิทธิ์ควบคุมทั้ง 2 สภา โดยประมาณการว่าจะคว้าเก้าอี้ในวุฒิสภาได้ 42.2%
ผลเอ็กซิทโพลบ่งชี้ว่า พรรคพันธมิตรฝ่ายกลางซ้ายมีคะแนนตามหลังอยู่ที่ 25.5% - 29.5% โดยนางเดบอรา เซอร์รักเคียนี จากพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายกล่าวว่า นี่คือค่ำคืนอันน่าเศร้าสำหรับอิตาลี ฝ่ายขวาจัด "ครองเสียงข้างมากในสภา" แต่ไม่ใช่ในประเทศ
ก่อนหน้านี้ นางเมโลนีได้ปรับภาพลักษณ์ให้นุ่มนวลยิ่งขึ้น และไม่พอใจที่ถูกเชื่อมโยงกับลัทธิฟาสซิสต์ในอดีตของอิตาลี โดยเธอสนับสนุนตะวันตกในการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย อย่างไรก็ตาม เธอยังคงสนับสนุนสโลแกนเก่าแก่ของลัทธิฟาสซิสต์อย่าง "พระผู้เป็นเจ้า ปิตุภูมิ และครอบครัว"
อนึ่ง พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายประสบความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอื่น หลังรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติที่บริหารอิตาลีได้เพียง 18 เดือนล่มลงในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา