สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะผู้นำของรัสเซียได้ออกมาประกาศชัยชนะในการทำประชามติผนวก 4 แคว้นของยูเครน ท่ามกลางกระแสประณามจากองค์การสหประชาชาติ (UN) หลังเผชิญความปราชัยอันน่าอดสูในสมรภูมิรบอย่างต่อเนื่อง
นายดมิทรี เมดเวเดฟ รองหัวหน้าสภาความมั่นคงแห่งรัสเซียกล่าวผ่านบัญชีเทเลแกรมในวันนี้ (28 ก.ย.) ว่า การทำประชามติผนวกพื้นที่ 4 แคว้นของยูเครนเสร็จสิ้นลงแล้ว โดยเขากล่าวว่า "ผลลัพธ์เป็นที่กระจ่างชัด ขอต้อนรับสู่รัสเซีย"
ขณะที่ นายเดนิส ปูชิลิน ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ระบุผ่านบัญชีเทเลแกรมว่า แคว้นของเขานับคะแนนประชามติเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดย 99.23% ของผู้ออกเสียงเห็นชอบในการผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ส่วนสำนักข่าว RIA ของทางการรัสเซียรายงานว่า ประชาชนในแคว้นเคอร์ซอน ซาปอริซเซีย และลูฮันสก์ลงคะแนนเสียงสนับสนุนการผนวกดินแดนเข้ากับรัสเซียแบบถล่มทลายเช่นเดียวกัน
การประกาศชัยชนะของรัสเซียถือเป็นการโหมกระพือความตึงเครียดให้กับสงครามในยูเครน ทั้งยังขยายความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและพันธมิตร โดยก่อนหน้านี้ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN ได้ประณามการทำประชามติดังกล่าว เนื่องจากละเมิดกฎบัตร UN และกฎหมายระหว่างประเทศ
จนถึงขณะนี้กองทัพรัสเซียยังไม่สามารถเผด็จศึกได้อย่างสมบูรณ์แบบในแคว้นใดเลยจากทั้ง 4 แคว้น ในขณะที่การต่อสู้ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยรัสเซียสั่งทำประชามติหลังจากทหารฝ่ายตนเผชิญความพ่ายแพ้ยับเยินให้กับฝ่ายยูเครนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังรัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนก.พ. โดยล่าสุดประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้สั่งระดมกำลังพลบางส่วนเพื่อเกณฑ์ทหารกองหนุน 300,000 นาย
ด้านประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนปฏิเสธผลประชามติดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กในวันนี้ โดยระบุว่า "การกระทำเยี่ยงอาชญากรของรัสเซียจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิ่งใดสำหรับยูเครน ละครตลกเพื่อยึดครองดินแดนครั้งนี้ไม่ใช่แม้กระทั่งการเลียนแบบการทำประชามติ"
อนึ่ง ชาติตะวันตกมองว่าการลงประชามติในครั้งนี้เป็นการอ้างเหตุผลของรัสเซียเพื่อผนวกดินแดนดังกล่าว และปธน.ปูติน จะอ้างว่าหากยูเครนโจมตีดินแดนดังกล่าวก็จะถือเสมือนการโจมตีรัสเซีย และเขาจะไม่ลังเลในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการปกป้องดินแดนและอธิปไตยของรัสเซีย