การประท้วงที่เกิดจากความไม่พอใจต่อกรณีการเสียชีวิตของมาห์ซา อามินี ยังคงลุกลามต่อเนื่องทั่วอิหร่านในวันอาทิตย์ (9 ต.ค.) แม้ทางการดำเนินการปราบปรามอย่างรุนแรง ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงครั้งนี้อย่างน้อย 185 ราย รวมถึงเด็ก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่งานศพของมาห์ซา อามินี วัย 22 ปี เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ภายหลังจากที่ถูกตำรวจศีลธรรมจับกุมตัวในกรุงเตหะรานในข้อหาแต่งกายไม่เหมาะสม
เหตุประท้วงดังกล่าวนับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีของผู้นำสูงสุดอิหร่าน โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้อยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ลงจากตำแหน่ง
องค์กรสิทธิมนุษยชนอิหร่าน (IHR) ที่ตั้งอยู่ในนอร์เวย์ระบุว่า ประชาชนอย่างน้อย 185 ราย รวมถึงเด็กอย่างน้อย 19 ราย ถูกสังหารในเหตุประท้วงทั่วประเทศอิหร่าน โดยประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นในจังหวัดซีสถานและบาลูจิสถาน
อย่างไรก็ตาม ทางการอิหร่านปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วง พร้อมระบุว่า เหตุประท้วงครั้งนี้เป็นแผนการของศัตรูอิหร่าน ซึ่งรวมถึงสหรัฐ พร้อมกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ประท้วงมีอาวุธและใช้ความรุนแรง จนส่งผลให้เจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย
ทั้งนี้ IHR ระบุว่า คลิปวิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นว่า เหตุประท้วงยังคงดำเนินต่อไปในหลายสิบเมืองทั่วอิหร่านในช่วงเช้าวานนี้ โดยมีนักเรียนมัธยมและนักศึกษาหญิงหลายร้อยคนเข้าร่วม แม้เจ้าหน้าที่จะใช้แก๊สน้ำตา กระบอง หรือแม้แต่กระสุนจริงก็ตาม