ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนได้กล่าวกับบรรดาผู้นำยุโรปว่า กองกำลังทหารของรัสเซียได้วางระเบิดไว้ที่เขื่อนกั้นน้ำทางตอนใต้ซึ่งรัสเซียยึดครองได้ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่และเป็นอันตรายต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองซาปอริซเซีย
ปธน.เซเลนสกีกล่าวในการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ในวันพฤหัสบดี (20 ต.ค.) ว่า กองกำลังทหารรัสเซียได้วางระเบิดไว้ที่เขื่อนของโรงไฟฟ้าพลังน้ำคาคอฟคา (Kakhovka Hydroelectric Power Plant) ห่างจากเมืองเคอร์ซอนซึ่งรัสเซียยึดครองไว้ได้ประมาณกว่า 40 ไมล์ โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานิโปร
"หากกลุ่มก่อการร้ายของรัสเซียทำลายเขื่อนแห่งนี้ แหล่งที่อยู่มากกว่า 80 แห่งซึ่งรวมถึงเมืองเคอร์ซอนด้วยนั้น จะกลายเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว โดยเขื่อนแห่งนี้บรรจุน้ำอยู่ประมาณ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร" ปธน.เซเลนสกีกล่าวในการประชุมผู้นำ EU ผ่านทางวิดีโอซึ่งมีการเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คำยืนยันดังกล่าวของปธน.เซเลนสกีเป็นส่วนหนึ่งของวาทกรรมที่กล่าวหากันไปมาระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่นักวิเคราะห์ของสถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (Institute for the Study of War) ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐกล่าวว่า รัสเซียอาจมีวัตถุประสงค์ที่จะจัดฉากสร้างสถานการณ์โจมตี (false-flag attack) เพื่อสนับสนุนถ้อยแถลงของนายเซอร์กี ซูโรวีคิน ผู้บัญชาการทหารของรัสเซียที่ระบุว่า กองกำลังของยูเครนกำลังวางแผนโจมตีเขื่อนดังกล่าว