นายไดชิโระ ยามากิวะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) หลังต้องเผชิญกับเสียง วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากกรณีที่เขาไม่สามารถชี้แจงถึงความสัมพันธ์ของเขากับโบสถ์แห่งความสามัคคี (หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ลัทธิมูน") ได้อย่างชัดเจน โดยคาดว่าการลาออกจากตำแหน่งของนายยามากิวะ จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อรัฐบาลภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ
นายยามากิวะเป็นรัฐมนตรีคนแรกของรัฐบาลนายคิชิดะที่ลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ได้เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีก่อน และนับเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบทางการเมืองรุนแรงที่สุดจากกรณีอื้อฉาวที่เกิดจากการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การลาออกของนายยามากิวะยิ่งซ้ำเติมความย่ำแย่ด้านคะแนนนิยมของนายคิชิดะมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เสียงสนับสนุนของรัฐบาลร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากการออกมายอมรับว่า สมาชิกพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของเขาเกือบครึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับโบสถ์แห่งความสามัคคี
นายยามากิวะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า เขารู้สึกเสียใจกับการกระทำของเขาในครั้งนี้ และออกมากล่าวคำขอโทษสั้น ๆ อย่างไรก็ตาม เขาจะยังคงทำหน้าที่สมาชิกสภานิติบัญญัติต่อไป เนื่องจากเขาไม่ได้กระทำการใดที่ผิดกฎหมาย พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมของลัทธิดังกล่าวหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้ลัทธิดังกล่าวเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะเตรียมเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งแทนนายยามากิวะในวันนี้ (25 ต.ค.) พร้อมระบุว่า เขายอมรับการลาออกของนายยามากิวะ เนื่องจากในฐานะนายกรัฐมนตรีแล้ว เขาต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับประเด็นต่าง ๆ เช่น มาตรการทางเศรษฐกิจและการจัดหางบประมาณเพิ่มเติม