เครื่องบินรบของกองทัพอากาศจีนได้เริ่มรุกคืบเข้าไปยังพื้นที่เปราะบางใกล้ไต้หวันในระดับสูงสุด นับตั้งแต่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อ 3 เดือนก่อน ท่ามกลางการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมากมายที่จีนมองว่าเป็นการบ่อนทำลายอธิปไตยของจีน
กระทรวงกลาโหมไต้หวันได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เครื่องบินรบ 31 ลำได้บินเข้าสู่เขตป้องกันภัยทางอากาศทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันหรือเส้นแบ่งเขตแดนช่องแคบไต้หวันเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) ซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.
ทางกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เครื่องบินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของฝูงบินรบจำนวน 63 ลำที่อยู่ใกล้กับ "พื้นที่โดยรอบไต้หวัน" พร้อมเสริมว่า กองทัพไต้หวันได้ "เฝ้าจับตาดูสถานการณ์" และดำเนินการตอบโต้ด้วยเครื่องบินรบ เรือเดินสมุทร และระบบขีปนาวุธ แต่ไม่ได้ขยายความเกี่ยวกับรายละเอียดของการตอบโต้ดังกล่าวแต่อย่างใด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การส่งฝูงบินเข้าใกล้ไต้หวันในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังแสดงความไม่พอใจต่อกรณีการเดินทางเยือนไต้หวันของนายเกร็ก แฮนด์ส รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของอังกฤษในสัปดาห์นี้และการเปิดสำนักงานการค้าของลิทัวเนียบนเกาะไต้หวันซึ่งจีนอ้างสิทธิ์ว่าเป็นดินแดนของตนเอง นอกจากนี้ สหรัฐและไต้หวันยังเตรียมจัดการเจรจาเกี่ยวกับการริเริ่มในด้านการค้าและเศรษฐกิจในวันอังคารและวันพุธที่นิวยอร์ก
ทั้งนี้ นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวว่า "โลกนี้มีเพียงจีนเดียวเท่านั้น และไต้หวันเป็นหนึ่งในดินแดนของจีนโดยไร้ซึ่งการแบ่งแยก และอังกฤษควรยุติการกระทำอันเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้องไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนไต้หวันเสียที"