รัสเซียสั่งถอนกำลังทหารออกจากเมืองเคอร์ชอนของยูเครน ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางหลักของภูมิภาคแห่งแรกที่รัสเซียเข้ายึดในการรุกราน โดยนับเป็นความพ่ายแพ้เชิงสัญลักษณ์อย่างรุนแรงของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
นายเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุในการแถลงผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) ว่า รัสเซียได้สั่งให้กองทหารถอนกำลังออกจากฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนีโปร (Dnipro) และย้ายไปประจำการที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำแทน หลังเผชิญแรงกดดันจากการโจมตีตอบโต้ของกองกำลังยูเครนในภูมิภาคเคอร์ชอนซึ่งอยู่ติดกับดินแดนไครเมีย
นายพลเซอร์เกย์ ซูโรวิกิน ผู้บัญชาการกองกำลังรัสเซียกล่าวกับนายชอยกูในระหว่างการเสนอให้ถอยทัพว่า "ผมเข้าใจดีว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ในขณะเดียวกัน เราจะต้องรักษาชีวิตทหารของเราไว้ และรักษาความสามารถในการรบของกองทหารโดยทั่วไป ซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะคงกองกำลังไว้ในฝั่งขวาของแม่น้ำซึ่งเป็นพื้นที่จำกัด"
อย่างไรก็ตาม ปธน.ปูตินซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญหลายด้านในปฏิบัติการรบครั้งนี้ ไม่ได้ปรากฏตัวในการแถลงทางโทรทัศน์ครั้งนี้แต่อย่างใด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การถอยทัพในครั้งนี้นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่อีกครั้งของรัสเซีย หลังจากที่ยูเครนเริ่มปฏิบัติการรุกคืบชิงดินแดนส่วนใหญ่รอบเมืองคาร์คิฟทางตะวันออกคืนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยเมืองเคอร์ซอนนับเป็นเมืองหลวงแรกของแคว้นเคอร์ซอนที่ถูกรัสเซียเข้ายึดในการรุกรานที่เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. และเป็นหนึ่งในดินแดนที่รัสเซียอ้างสิทธิ์ในการผนวกดินแดนจากการทำประชามติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายโอเล็กซีย์ อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาประจำสำนักงานประธานาธิบดียูเครนออกมาระบุผ่านทวิตเตอร์ภายหลังการประกาศถอนกำลังทหารของรัสเซียว่า "กองทัพรัสเซียไม่ได้ถอนกำลังออกไปจากเมืองเคอร์ชอน แต่ถูกขับไล่ออกไปด้วยฝีมือของกองกำลังยูเครน"