เว็บไซต์ของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ โดยล่าสุดพบว่า พรรครีพับลิกันมีคะแนนนำทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
ณ เวลา 11.15 น.ตามเวลาไทย พรรคเดโมแครตได้ 48 ที่นั่งในวุฒิสภา ขณะที่พรรครีพับลิกันได้ 49 ที่นั่ง ส่วนในสภาผู้แทนราษฎรนั้น พรรคเดโมแครตได้ 189 ที่นั่ง ขณะที่พรรครีพับลิกันได้ 209 ที่นั่ง
ผลสำรวจของสำนักโพลส่วนใหญ่ระบุว่า พรรครีพับลิกันอาจจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และคาดว่าพรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้แสดงความพอใจเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในวันพุธ (9 พ.ย.) ว่า พรรคเดโมแครตของเขาสามารถดับกระแสคาดการณ์ที่ว่า พรรครีพับลิกันจะได้ครองเสียงข้างมากอย่างแข็งแกร่งทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า เขาพร้อมที่จะร่วมงานกับพรรครีพับลิกัน หากพรรคได้ครองเสียงข้างมากในสภาใดสภาหนึ่งหรือทั้งสองสภา และเขาคาดหวังที่จะได้พบปะพูดคุยกับนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรในไม่ช้านี้ โดยมีความเป็นไปได้สูงที่นายแมคคาร์ธีจะได้นั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรหากพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมาก
การเลือกตั้งกลางเทอมถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยจะมีการชิงชัยเก้าอี้ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจำนวน 435 ที่นั่ง รวมทั้งเก้าอี้ในวุฒิสภาจำนวน 35 ที่นั่ง จากทั้งหมด 100 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังมีการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 39 มลรัฐ รวมทั้งการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีกจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากผลการนับคะแนนเป็นไปอย่างสูสี จะทำให้การตัดสินว่าพรรคใดครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสอาจต้องใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากต้องรอคะแนนชี้ขาดจากรัฐทางฝั่งตะวันตก
ที่ผ่านมา การนับคะแนนเลือกตั้งในรัฐแคลิฟอร์เนียมักใช้เวลานานหลายสัปดาห์ เนื่องจากทางรัฐจะนับรวมบัตรเลือกตั้งที่มีการส่งทางไปรษณีย์ แม้มีการประทับตราหลังวันที่ 8 พ.ย. ขณะที่รัฐเนวาดาและวอชิงตันอนุญาตให้นับรวมบัตรเลือกตั้งดังกล่าวเช่นกัน
นอกจากนี้ หากมีการฟ้องร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ในบางรัฐ หรือบางรัฐต้องจัดการเลือกตั้งใหม่เนื่องจากผู้สมัครได้คะแนนไม่ถึง 50% ก็จะส่งผลให้การตัดสินชี้ขาดพรรคที่จะครองสภาคองเกรสต้องล่าช้าออกไปถึงเดือนธ.ค.