ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ประชุมทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันนี้ โดยผู้นำทั้งสองได้หารือกันอย่างตรงไปตรงมาในหลายประเด็นเกี่ยวกับผลประโยชน์ของสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนจะส่งนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางเยือนจีนเพื่อสานต่อการเจรจาทวิภาคีในวันนี้ โดยการเดินทางดังกล่าวอาจมีขึ้นในช่วงต้นปี 2566
ทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ไบเดนกล่าวต่อปธน.สีว่า สหรัฐจะยังคงทำการแข่งขันกับจีนต่อไป ซึ่งรวมถึงการลงทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในสหรัฐ และดำเนินการร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก
"ท่านประธานาธิบดีไบเดนกล่าวย้ำว่า การแข่งขันดังกล่าวไม่ควรก่อให้เกิดความขัดแย้ง โดยสหรัฐและจีนจะต้องจัดการต่อการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ และยังคงเปิดช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน" แถลงการณ์ระบุ
ปธน.ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว และไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับจุดยืนต่อไต้หวัน
ปธน.ไบเดนแถลงดังกล่าว หลังประชุมทวิภาคีกับปธน.สีที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันนี้ โดยผู้นำทั้งสองใช้เวลาเจรจาในการประชุมดังกล่าวเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ก่อนที่การประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ และสิ้นสุดในวันพุธ
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่ปธน.ไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนม.ค.2564
ปธน.สีกล่าวต่อปธน.ไบเดนในการประชุมว่า ประเด็นไต้หวันถือเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีน และเป็น "เส้นแดงเส้นแรก" ของความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งสหรัฐจะก้าวข้ามมิได้
ปธน.สีเรียกร้องให้ปธน.ไบเดนนำเอาคำมั่นสัญญาของสหรัฐที่มีต่อจีนมาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
ก่อนหน้านี้ จีนแสดงความไม่พอใจต่อการที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวัน ขณะที่สหรัฐดำเนินนโยบายความกำกวมทางยุทธศาสตร์ (strategic ambiguity) เกี่ยวกับไต้หวัน โดยสหรัฐยืนยันยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว แต่ก็ระบุว่าพร้อมปกป้องไต้หวัน หากถูกจีนโจมตี