สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย อยู่ฟังการกล่าวปราศรัยทางไกลของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนในที่การประชุมสุดยอดกลุ่ม G20
การกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวเป็นกำหนดการสำคัญในการประชุมรอบแรกของการประชุมสุดยอด G20 ที่บาหลีในอินโดนีเซีย ซึ่งเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (15 พ.ย.) และแสดงให้เห็นว่าความตึงเครียดและผลกระทบจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนนั้นยังคงมีอยู่
ปธน.เซเลนสกีกล่าวร้องขอการสนับสนุนจากกลุ่มที่ปธน.เซเลนสกีเรียกว่า G19 ซึ่งสื่อถึงกลุ่ม G20 ที่ไม่รวมรัสเซีย ขณะที่จำนวนผู้เข้าร่วมประชุมในแต่ละรอบนั้นจะแตกต่างกันไป แต่พบว่าในการกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.เซเลนสกีนั้นมีผู้ร่วมฟังจนเต็ม โดยมีนายลาฟรอฟรวมอยู่ด้วย
หลังปธน.เซเลนสกีกล่าวจบ นายลาฟรอฟที่เข้าร่วมการประชุมแทนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้ขึ้นพูดต่อ แต่ระบุว่าจะตอบโต้ปธน.เซเลนสกี โดยได้ระบุย้ำคำกล่าวอ้างของปธน.ปูตินว่า ปฏิบัติการในวันที่ 24 ก.พ.ของรัสเซียเป็นไปเพื่อสู้รบกับกลุ่มนีโอนาซีในยูเครนเท่านั้น แม้ทางทำเนียบเครมลินไม่มีหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวอ้างดังกล่าวก็ตาม
ในระหว่างที่นายลาฟรอฟกล่าวนั้นมีผู้ฟังอยู่เต็มห้องประชุมและไม่มีการวอล์กเอาต์หมู่แต่อย่างใด ซึ่งนับเป็นชัยชนะเชิงวาทศิลป์ของรัสเซีย แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากผู้ฟัง ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้นำโลกเหน็ดเหนื่อยกับคำกล่าวอ้างของรัสเซียหลังสงครามในยูเครนเข้าสู่เดือนที่ 9 แล้ว
ในถ้อยแถลงของปธน.เซเลนสกีได้มีการยืนยันว่า ยูเครนกำลังทำงานร่วมกับประเทศผู้สนับสนุนเพื่อหาเงินทุนในการส่งออกธัญพืชลอตใหม่ในช่วงที่เป็นการครบรอบเหตุการณ์มหาทุพภิกขภัย (holodomor) ในช่วงทศวรรษ 1930 ซึ่งได้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างกว้างขวางจนนำไปสู่อัตราการตายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยนับเป็นการผลักดันเชิงสัญลักษณ์ที่มีขึ้น ท่ามกลางการหารือเพื่อขยายข้อตกลงที่อนุญาตให้ส่งออกธัญพืชจากท่าเรือที่ได้รับผลกระทบจากสงครามได้